tag:blogger.com,1999:blog-80409963406568706112024-03-12T19:35:18.183-07:00กลุ่มประกายไฟ<p>“กลุ่มประกายไฟ” เป็นกลุ่มกิจกรรมที่เกิดจากการรวมตัวกันของเยาวชนคนหนุ่มสาวที่สนใจศึกษาเรียนรู้และต้องการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสังคมอย่างถึงราก พร้อมๆกันนั้นเราก็สนใจศึกษาเรียนรู้และทดลองใช้ทฤษฎีมาร์กซ์วิเคราะห์สังคม
<p>รวมทั้งทดลองเสนอทางออกของสังคมตามการวิเคราะห์นั้น
<p>“กลุ่มประกายไฟ” เป็นเพียงกลุ่มกิจกรรมเล็กๆเฉกเช่นเดียวกับชื่อของกลุ่ม แต่ประกายไฟเล็กๆนี้ก็อาจขยายกลายเป็น “ทะเลไฟ” ได้เช่นกัน</p></p></p>bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.comBlogger30125tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-55528638574477160042010-05-29T20:22:00.000-07:002010-05-29T20:36:33.233-07:00Iskra Music : เหมือนไม่มีอะไรเพลงเหมือนไม่ีอะไร<br /><br />ขับร้องโดย Homo erectus<br />ทำนอง/เนื้อร้อง โดย เฉื่อย ประกายไฟ<br />ตัดต่อ MV โดย กอล์ฟ ประกายไฟ<br /><br /><object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/VxowIAdg6rM&hl=en_US&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/VxowIAdg6rM&hl=en_US&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object><br /><br />ตึกสามารถสร้างใหม่ได้ แต่ชีวิตคนสร้างใหม่ไม่ได้<br />ภายใต้สังคมที่เราเผชิญอยู่ กระแสที่มองเห็นความสำคัญของตึกมากว่าชีวิตคนชนชั้นล่างที่สูญเสียและบาดเจ็บ <br />จะแปลกอะไรที่เสียงพวกเขา พื้นที่ๆพวกเขาจะยืน จึงถูกทำให้ไม่มีและไม่ได้ยินbus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-2289869945722416652009-11-14T09:19:00.000-08:002009-11-14T09:53:00.925-08:00ประกายไฟเสวนา ตอน “สถานีต่อไป : แปรรูป รถไฟ รถเมย์!?”<div align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj-Br9Zs2T0770BExWFFOWvxyKmxNZ-ZzU9kP6-TG8SDGyr0IQE5IEK59mSv96HPWQHK_b8wzMYrO8oM_TuJic6A-xqElf8SjSJW8IDOLDlKYKE4ofSefrSqWGwjFZk7bwqCk5vlq4c3Slp/s1600-h/%E0%B8%A3%E0%B8%9F%E0%B8%972.GIF"><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 226px; DISPLAY: block; HEIGHT: 320px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5404017939970148306" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj-Br9Zs2T0770BExWFFOWvxyKmxNZ-ZzU9kP6-TG8SDGyr0IQE5IEK59mSv96HPWQHK_b8wzMYrO8oM_TuJic6A-xqElf8SjSJW8IDOLDlKYKE4ofSefrSqWGwjFZk7bwqCk5vlq4c3Slp/s320/%E0%B8%A3%E0%B8%9F%E0%B8%972.GIF" /></a><br />Poster by Palida Nam Prakarapho</div><br /><br />13.00 – 16.00 น. วันอาทิตย์ ที่ ….พฤศจิกายน 2552<br />@ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ราชดำเนิน กรุงเทพฯ<br /><br />สืบเนื่องจากกรณี ที่กิจการรถไฟประสบปัญหาในการเดินรถและให้บริการประชาชนไม่มีคุณภาพ เ กิดการขัดข้องในการให้บริการจนล่าสุดเกิดอุบัติเหตุรถไฟตกรางทำให้มีประชาชนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ด้วยสาเหตุจากการที่รัฐให้งบประมาณสนับสนุนการพัฒนาระบบการขนส่งและเดินรถให้บริการประชาชนไม่เพียงพอ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นดังได้กล่าวแล้วนั้น รัฐบาลกลับมองว่าเกิดจากสาเหตุที่รัฐเป็นเจ้าของกิจการดำเนินงานเอง ทำให้กลไกการทำงานขาดประสิทธิภาพต้องให้เอกชนเข้ามาดำเนินการแทน(Privatization)จึงจะทำให้ปัญหาที่ประสบอยู่ลดลงหรือหมดไปในที่สุด เช่นเดียวกับกรณีรถเมล์เอ็นจีวี4,000คันที่รัฐบาลกำลังพยายามผลักภาระค่าใช้จ่ายทางการคมนาคมและความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจให้ประชาชน โดยรัฐบาลอ้างว่าเพื่อเป็นการลดการขาดทุนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)แทนที่จะเพิ่มรัฐบาลจะจัดการดูแลอย่างเต็มที่ เพิ่มงบประมาณในการสนับสนุนกิจการรถไฟและรถเมล์อันเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้แก่ประชาชน<br /><br />ความพยายามในการใช้ข้ออ้างวิกฤตการณ์เรื่องประสิทธิภาพและการขาดทุนของทั้งรถไฟและรถเมล์ของรัฐบาลเพื่อ “ปฏิรูป”องค์กรทั้งสอง โดยการดำเนินนโยบายแปรรูปองค์กรทั้งสองให้เป็นรัฐวิสาหกิจที่เอกชนเข้ามาบริหารจัดการนั้น นอกจากจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสถานภาพและรูปแบบการจ้างงานของกรรมกรทั้งสององค์กรที่ถ้านโยบายถูกนำไปปฏิบัติจะทำให้เกิดการขูดรีดแรงงานมากขึ้น อัตราการว่างงานสูงขึ้น ที่สำคัญประชาชนซึ่งเป็นกรรมกรโดยส่วนใหญ่ยังต้องรับผิดชอบภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้นจากนโยบายแปรรูปทั้งๆที่เสียภาษีให้แก่รัฐไปแล้ว นับว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุดเพราะสาเหตุหลักมาจากการที่รัฐบาลไม่ได้ใส่ใจดูแล ทุ่มเทงบประมาณในการแก้ไขปัญหาเท่าที่ควรดังได้กล่าวแล้วข้างต้น<br /><br />จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนับว่ามีแนวโน้มที่จะส่งผลเสียต่อพี่น้องแรงงานของทั้งรถไฟ,รถเมล์, ขบวนการแรงงานโดยรวมเพราะทั้งสององค์กรมีการจัดตั้งสหภาพแรงงาน การจ้างงานรูปแบบใหม่หลังจากแปรรูปรัฐวิสาหกิจย่อมส่งผลกระทบต่อการรวมตัวของพี่น้องแรงงานและขบวนการแรงงานในการสร้างอำนาจต่อรองกับนายจ้างและนโยบายที่ไม่เป็นธรรมของรัฐ และโดยเฉพาะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนผู้หาเช้ากินค่ำซึ่งเข้ารับบริการสาธารณะดังกล่าวที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ จะต้องเข้ามาแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการขั้นพื้นฐานทั้งสองนี้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่องค์กรภาคประชาชนฝ่ายต่างๆจะต้องระดมความคิด แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์กันสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น อันจะนำไปสู่การหาทางออกที่ควรจะเป็น ยุทธศาสตร์-ยุทธวิธีในการขับเคลื่อนประเด็นปัญหาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างแท้จริง และเป็นการให้การศึกษาแก่สาธารณชนชนทั่วไปให้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว นำไปสู่การเกิดประโยชน์สูงสุดต่อขบวนการแรงงาน ภาคประชาชน และสาธารณชนโดยรวมต่อไป ด้วยเหตุนี้ทางกลุ่มประกายไฟที่มีสมาชิกส่วนหนึ่งเป็นพี่น้องแรงงานและองค์กรพันธมิตรจึงขอทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการจัดกิจกรรมในลักษณะของการเสวนาเชิงปฏิบัติการ นี้ ภายใต้ชื่อกิจกรรม ประกายไฟเสวนา ตอน “สถานีต่อไป : แปรรูป รถไฟ รถเมย์!?”<br /><br /><br />วัตถุประสงค์<br /><br />1.เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อมูล ความคิดเห็นกรณีที่รัฐฉกฉวยสถานการณ์ในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจและทำลายขบวนการแรงงานทางอ้อม แนวทางการต่อสู้ในอดีต ความสำเร็จและล้มเหลวจากการต่อสู้ที่ผ่านมา<br /><br />2.เพื่อให้ได้แนวทางร่วมกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแปรรูปรัฐวิสาหกิจและทำลายขบวนการแรงงานทั้งสถานการณ์เฉพาะหน้าและยุทธศาสตร์การพัฒนาในอนาคตต่อไป<br /><br /><br />กิจกรรม<br /><br />12.30 – 13.00 น. ลงทะเบียน พูดคุยกันตามอัธยาศรัย<br />13.00 – 16.00 น. เสวนา ในหัวข้อ “สถานีต่อไป : แปรรูป รถไฟ รถเมย์!?”<br /><br />นำเสวนาโดย<br />เก่งกิจ กิติเรียงลาภ กลุ่มประกายไฟ<br />ปกรณ์ อารีกุล สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)<br />วณัฐ โคสาสุ ฝ่ายการเมือง องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.)<br /><br />ดำเนินรายการโดย<br />สลิลทิพย์ ณ พัทลุง กลุ่มประกายไฟ<br /><br />สอบถามรายละเอียดได้ที่ 084 660 1664 รัชพงศ์ โอชาพงศ์ ประกายไฟ<br />หรือ 089 258 3641 bus4530219@hotmail.com เทวฤทธิ์ มณีฉาย<br />http://prakaifire.blogspot.com/bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-60014483937572204292009-10-27T17:28:00.000-07:002009-10-27T17:34:10.605-07:00จดหมายถึงเมืองไทย ภาพตัดต่อหกตุลาและภาพตัดต่อคานธี ความเหมือนที่จบต่าง<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEijg1Tsq4nVWrZBdD6IYu49Da9oh5JtudheBukCUv6gt205GYEUOuEZLPYygQU8QyU5_br2mNW4UVUh0StX9sgLUyAmszfTUjwp5iuErhz78Vcq7ssL-uurf5p3KakZ-JTKc7XtbhM8NSFm/s1600-h/images.jpg"><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 97px; DISPLAY: block; HEIGHT: 113px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5397442025003458642" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEijg1Tsq4nVWrZBdD6IYu49Da9oh5JtudheBukCUv6gt205GYEUOuEZLPYygQU8QyU5_br2mNW4UVUh0StX9sgLUyAmszfTUjwp5iuErhz78Vcq7ssL-uurf5p3KakZ-JTKc7XtbhM8NSFm/s320/images.jpg" /></a><br /><div align="right"><br />5 ตุลาคม 2552<br />New Delhi Republic of India</div><br /><br />วันนี้สำหรับคนทั่วๆไปในสังคมไทยวันนี้ก็คงเป็นแค่วันธรรมดาคนหนึ่ง สำหรับสังคมที่ลืมง่ายอย่างสังคมไทยแล้วภาพชาวพุทธคนหนึ่งเอาเก้าอี้หวดไปที่ศพของคนอีกคนหนึ่งอย่างไม่ปราณีปราศัยบริเวณท้องสนามหลวงตรงข้ามวัดพระแก้วสถานที่ศักสิทธิของศาสนาพุทธศาสนาที่ว่ากันว่าสอนถึงความเมตตาคงเป็นภาพที่ถูกลืมไปแล้วพร้อมๆกับตัวเลขในปฎิทินที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ดีสำหรับผู้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหยื่อในเหตุการณ์หรือผู้รักความธรรมที่ได้ศึกษาประวัติศาตร์การเมืองที่ชุ่มไปด้วยเลือดของรัฐไทย ภาพอันน่าอัปยศนี้คงจะเป็นอะไรที่ลืมไม่ลง จุดเริ่มต้นของการสังหารโหดเมื่อเช้าตรู่วันที่หกตุลานั้นมาจากภาพการแสดงละครล้อระหว่างการประท้วงการกลับเข้าประเทศของพระถนอม จากกรณีการอุ้มฆ่าและแขวนคอสองพนักงานการไฟฟ้าที่ติดโปสเตอร์ประท้วงการกลับมาของพระถนอม ผู้ชุมนุมที่กรุงเทพได้ทำการแสดงละครล้อเพื่อประท้วงการสังหารโหดครั้งนี้ทว่านั่นกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความโหดร้าย ได้มีผู้นำภาพการแสดงละครล้อนั้นเผยแพร่และปลุกระดมว่าผู้ชุมนุมดูหมิ่นบุคคลสำคัญของชาติและต้องการทำลายสถาบันอันเป็นที่เคารพยิ่ง มีการถกเถียงกันต่างๆนานาว่าภาพนี้มีการตัดต่อหรือไม่และถ้ามีการตัดต่อใครเป็นคนทำไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรทว่าภาพเจ้าปัญหานี้ท้ายที่สุดก็นำไปสู่การนองเลือด จดหมายฉบับนี้ผมคงจะไม่พูดถึง6ตุลาในแง่ประวัติศาสตร์เพราะคงมีคนพูดถึงกันมากแล้วอีกทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งโดยตรงและโดยอ้อมคงจะพูดถึงเรื่องราวต่างๆได้ดีกว่าผมที่ยังคงไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้กระทั้ง8ปีหลังเหตุการณ์แต่อย่างไรก็ดีภาพบางภาพที่ผมได้เห็นเมื่อสองสามวันก่อนระหว่างที่กำลังศึกษาต่อที่ประเทศอินเดียนี้ได้จุดประกายให้ผมเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมา<br /><br />สองตุลาคมเป็นวันคล้ายวันเกิดของคานธีผู้ที่ ผู้นำการต่อสู้คนสำคัญคนหนึ่งของอินเดียที่ต่อสู้เพื่อการเป็นเอกราชจากอังกฤษจนได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของประเทศ วันเกิดของเขากลายเป็นวันหยุดประจำชาติและใบหน้าของเขาก็ได้ถูกพิมพ์ลงในธนบัตรทุกราคาที่ใช้ในประเทศนี้ จากตรงนี้คงไม่ต้องบอกว่าสำหรับสังคมอินเดียเขาได้รับการยกย่องมากแค่ไหน ทว่าเนื่องจากคานธีเป็นผู้มีหัวอนุรักษ์นิยมเชิงศาสนาและเชื่อมั่นในระบบวรรณะกลุ่มคนชั้นล่างกลุ่มหนึ่งจึงไม่ค่อยชอบใจนโยบายที่อิงศาสนาและมองสังคมผ่านแว่นระบบวรรณะของคานธี เมื่อวันที่สองที่ผ่านมาขณะไปซื้อข้าวที่แคนทีนผมได้เห็นภาพโปสเตอร์ภาพหนึ่งของกลุ่มนักเรียนที่มาจากวรรณะระดับล่างเชิญชวนให้ไปร่วมฟังการเสวนาในหัวข้อว่าคานธีกับความรุนแรงที่มีต่อคนวรรณะล่าง บนโปสเตอร์มีภาพตัดต่อเอาหน้าของคานธีไปวางบนร่างของแรมโบ้กล้ามใหญ่ถือปืนกระบอกโต ที่ร่ายยาวมานี้ดูเหมือนว่ามันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์หกตุลาเลย แน่นอนว่าคานธีนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหกตุลาแต่สิ่งที่ผมกำลังจะสื่ออยู่ตรงที่การเปรียบเทียบความเหมือนกันในเหตุการณ์(ภาพตัดต่อ)กับผลลับที่แตกต่างระหว่างที่อินเดียกับไทย<br /><br />สำหรับอินเดียคนอินเดียโดยส่วนใหญ่มองคานธีอย่างศรัทธาและชื่นชมทว่าเมื่อกลุ่มนักศึกษาที่มีความเห็นต่างทำการติดโปสเตอร์ที่ตัดต่อรูปของคานธีกับแรมโบกลุ่มผู้ที่สนับสนุนคานธีกลับไม่มีการดำเนินการต่อต้านที่รุนแรง ไม่มีการใช้กำลัง เข้าทำร้ายผู้ติดโปสเตอร์หรือเข้าไปทลายการเสวนาของกลุ่ม ตรงจุดนี้นี่เองที่แสดงถึงเสรีภาพในการแสดงออกและการยอมรับความแตกต่างอย่างสันติ สิ่งที่ผู้สนับสนุนคานธีทำคือการติดโปสเตอร์หรือการจัดเสวนาตอบโต้เท่านั้นซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งปกติตามระบบประชาธิปไตยทว่าไม่มีการก้าวล่วงไปสู่การใช้กำลังใดๆทั้งสิ้น สิ่งนี้แหละที่สังคมไทยยังขาดไปนั่นคือการยอมรับความเห็นต่างและเสรีภาพในการแสดงออก แม้ว่าในมุมหนึ่งอินเดียอาจจะดูเป็นสังคมที่ปิดกว่าไทยเช่นด้วยว่ามีปัจจัยด้านศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องดังนั้นเช่นการแต่งกายที่นี่ผู้หญิงดูจะแต่งกายมิดชิดกว่าผู้หยิงไทยหรือด้านความเป็นเมืองและความเจริญทางวัตถุที่อินเดียดูจะล้าหลังแต่ทว่าด้านสิทธิเสรีภาพและการเคารพในความเห็นต่างทางการเมืองเราดูจะล้าหลังกว่าเขาหลายขุม การที่ภาพล้อเลียนคานธีไม่นำไปสู่เหตุการณ์2ตุลาที่นี่ ขณะที่ในไทยภาพละครล้อจากการชุมนุมได้นำไปสู้การเข่นฆ่าที่ทารุณจากน้ำมือของผู้ที่ปาวารณาตนว่าเป็นชาวพุทธผู้มีเมตตาโดยมีสถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธเป็นฉากหลังเหตุการณ์ที่มีจุดเริ่มต้นเหมือนกันนี้กลับมีจุดจบที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง<br /><br />หกตุลาในแง่นึงมันคือประวัติศาสตร์ที่จบไปแล้วแต่หากเรามองอีกมุมหนึ่งหกตุลาก้อยังคงเกิดขึ้นวนเวียนอยู่บ่อยๆที่หลายครั้งหลายคราการแสดงความเห็นต่างได้จบลงด้วยความรุนแรงแม้จะไม่เท่าระดับหกตุลานั่นไม่ได้หมายความว่าเหตุการณ์รูปแบบเดียวกันจะไม่เกิดขึ้นอีก ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองไทยที่กำลังเข้มขึ้นไปทุกขณะในปัจจุบันนี้ถ้าสังคมไทยยังไม่ยอมรับความต่างอย่างสันติเหตุการณ์หกตุลาอาจหวนคืนมาอีกในเวอร์ชันที่รุนแรงกว่าก็เป็นไปได้ สุดท้ายนี้ผมคงขอร่วมไว้อาลัยให้กับเหยื่อหกตุลารวมไปถึงผู้ถูกปราบปรามและสังหารโดยไร้ความอยุติธรรมทุกท่านและขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่สูญเสียคนรัก ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หกตุลารวมไปถึงเหตุการณ์รุนแรงอื่นๆและผู้ที่กำลังตกเป็นจำเลยสังคมเพียงเพราะความเห็นต่างทุกท่านครับหวังว่าฝันร้ายเมื่อปี2519คงจะไม่หวนกลับมาหลอกหลอนสังคมไทยอีกคราหนึ่ง<br /><br /><div></div><br /><div align="right">ด้วยจิตคารวะ<br />Benjamin Franklin</div><div align="right"></div><div align="right"></div><div align="left"> </div><div align="left"> </div><div align="left"> </div><div align="left"> </div><div align="left"> </div><div align="left">Comment by แมน ประกายไฟ</div><div align="left"></div><div align="left"></div><br />หลังจากอ่านจบแล้ว ถ้าผมเข้าใจประเด็นไม่ผิด นำเสนอเรื่องการยอมรับความคิดที่แตกต่างแม้ต่อสิ่งตัวเองเคารพสินะครับ<br /><br />ผมคิดว่าประเด็นที่เสนอค่อนข้างใช้ได้ดีนะครับ แต่ผมคิดว่าไม่ชอบในบางประโยค ซึ่งผมคิดว่าเป็นการตีขลุมมากเกินไป<br /><br />เช่นประโยคที่ว่า "...ภาพชาวพุทธคนหนึ่งเอาเก้าอี้หวดไปที่ศพร่างหนึ่งอย่างไม่ปราณีปราศัย..." สามารถเคลมได้จริงหรือเปล่าว่าคนในภาพนั้นเป็นคนที่นับถือพุทธจริงๆ?<br /><br />ok อาจจะกล่าวว่า เพราะการที่สมัยนั้นมีการเสนอ motto "คอมมิวนิสต์ ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" และมีการขยายความต่อว่าศาสนาที่แสดงถึงความเป็นไทยคือ ศาสนาพุทธ หรือการกล่าวว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติก็ตาม แต่สามารถเคลมได้จริงหรือเปล่าว่าคนที่ก่อการในวันนั้นทุกคนเป็นคนพุทธ? เมื่อเช่นนั้นก็พูดยากนะครับว่าคนที่ถือเก้าอี้คนนั้นจะนับถือศาสนาอะไร อาจบางทีเขาอาจจะนับถือศาสนาพุทธจริงๆ แต่ถ้าไม่มีหลักฐานเชิงพอมันก็เคลมลำบากนะครับ<br /><br />แม้ผมจะเห็นด้วยกับการวิพากษ์การชอบเคลมตัวเองของคนไทยว่าเป็นเมืองพุทธ เป็นชาวพุทธ แต่มิได้กระทำให้พึงสอดคล้องกับสิ่งที่เรียกว่าแนวคิดแบบพุทธก็ตาม แต่นั้นคือภาพแบบมหภาค แต่การกล่าวถึงบุคคลแบบย่อยเช่น การบอกว่าคนที่ถือเก้าอี้คนนั้นเป็นพุทธมันก็มีความจำเป็นที่จะต้องมีหลักฐานเฉพาะตัวกับบุคคลคนนั้นเช่นกันครับbus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-75420518888558568372009-10-27T03:54:00.000-07:002009-10-27T17:35:15.756-07:00แถลงการณ์คัดค้านกรณีการจับกุมชาวบ้านที่ลุกขึ้นมาทวงสิทธิที่หนองแซงจากพี่น้องชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมจากก๊าซธรรมชาติ ขนาดกำลังการผลิต 1,600 เมกะวัตต์ ที่จะก่อสร้างในพื้นที่ตำบลหนองแซง จังหวัดสระบุรี ได้ชุมนุมปิดถนนสายพหลโยธินตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2552 และได้ยุติการชุมชนในวันที่ 25 กันยายน 2552 เพื่อแสดงตัวตนและสื่อสารต่อสาธารณะของชาวบ้านที่เป็นเหยื่อของการพัฒนาที่ไม่เป็นธรรมและขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนผู้เป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติ<br /><br />ทั้งนี้จากข่าวที่เราได้รับทราบนั้นการต่อสู้ของชาวบ้านได้กระทำผ่านกลไกและกระบวนการตามขั้นตอนราชการโดยการยื่นหนังสือร้องเรียน คัดค้านต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในทุกระดับในท้องถิ่นถึงหน่วยงานรัฐในระดับนโยบาย ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติละสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ วุฒิสภา การเข้าพบและยื่นหนังสือต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่คำตอบที่ชาวบ้านได้รับคือการอนุมัติเห็นชอบผ่านรายงาน อี ไอ เอ ของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในพื้นที่เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเหตุที่ทำให้ชาวบ้านผู้คัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติอำเภอหนองแซงต้องชุมนุมปิดถนน เพื่อรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับนโยบายลงเจรจาปรึกษาหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกับชาวบ้าน<br /><br />แต่ผลที่พี่น้องเราได้รับคือผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีแจ้งความดำเนินคดีข้อหาปิดถนนทางสาธารณะกับแกนนำชาวบ้าน 6 คน คือ นายนพพล น้อยบ้านโง้ง และนายคูณทวี หรือน้อย ซึ่งเป็นแกนนำคัดค้านบ่อกำจัดขยะเบ็ตเตอร์เวิลด์กรีน และนายตี๋ ตรัยรัตนแสงมณี นายสมคิด ดวงแก้ว นางวัชรี เผ่าเหลืองทอง และนายสุปรีดี หรือเปรี้ยง ซึ่งเป็นแกนนำคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าหนองแซง ด้วยพ.ร.บ.ทางหลวง มาตรา 39 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 229 โดยอ้างว่าทำให้ปิดทางสาธารณะอันน่าจะทำให้เกิดเหตุอันตราย และปรากฏว่าพี่น้องเราถุกจับกุมขณะกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า 3 คน คือ นายนพพล น้อยบ้านโง้ง และนายคูณทวี หรือน้อย และนายสุปรีดี หรือเปรี้ยง ไปกักขังโดยไม่ยินยอมให้ประกันตัวอีก ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นว่า<br /><br />1.การชุมนุมของชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการโรงไฟฟ้านั้นเป็นการชุมนุมตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้องสิทธิและแสดงออกซึ่งความเห็นต่อสาธารณะ เป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธอันเป็นเสรีภาพ ที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ.2550 ในมาตราที่ 63 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ค.ศ.1966 ได้รองรับและคุ้มครองไว้<br /><br />2.การออกหมายจับ ถือเป็นการขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญดังที่กล่าวไว้ในข้อ 1 และการออกหมายจับดังกล่าวจึงเท่ากับการยอมรับว่าประเทศไทยไม่ได้ปกครองโดยยึดถือหลักการปกครองโดยกฎหมายเป็นใหญ่ (The Rule of Law) อีกต่อไป เพราะเป็นการยอมให้กฎหมายอาญาและจราจรที่มีฐานะต่ำกว่ารัฐธรรมนูญ มีผลยกเลิกกฎหมายรัฐธรรมนูญไปโดยปริยาย<br /><br />3.การคัดค้านการประกันตัวนั้น ถือเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักมนุษยธรรม และหลักนิติธรรม ซึ่งถุกรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งฉบับพุทธศักราช 2540 และ 2550 ที่ระบุว่า<br /><br />มาตรา 26 การใช้อำนาจโดยองค์กรของรัฐทุกองค์กร ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพ ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้<br /><br />มาตรา 40 "...บุคคลย่อมมีสิทธิในกระบวนการยุติธรรม...ในคดีอาญา ผู้ต้องหาหรือจำเลยมีสิทธิได้รับการสอบสวนหรือการพิจารณาคดี ที่ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม โอกาสในการต่อสู้คดีอย่างเพียงพอ การตรวจสอบหรือได้รับทราบพยานหลักฐานตามสมควร การได้รับความช่วยเหลือในทางคดีจากทนายความ และการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว..."<br /><br />รวมถึงขัดกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ค.ศ.1966 (International Covenant on Civil and Political Rights)ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก มีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติตาม ในข้อ 14 ข้อย่อยที่ 3 ซึ่งบัญญัติว่า “ในการพิจารณาคดีอาญา บุคคลทุกคนซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดย่อมมีสิทธิที่จะได้รับหลักประกันขั้นต่ำดังต่อไปนี้โดยเสมอภาค<br /><br />(ก) สิทธิที่จะได้รับแจ้งโดยพลันซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับสภาพและเหตุแห่งความผิดที่ถูกกล่าวหา ในภาษาซึ่งบุคคลนั้นเข้าใจได้<br /><br />(ข) สิทธิที่จะมีเวลา และได้รับความสะดวกเพียงพอแก่การเตรียมการเพื่อต่อสู้คดี และติดต่อกับทนายความที่ตนเลือกได้”<br /><br />4.การเพิกเฉยของหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่อการเรียกร้องในสิทธิชุมชนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบนั้น ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อเจตนารมณ์ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ว่าด้วยเรื่องสิทธิชุมชนใน มาตรา 67 โดยเฉพาะการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพนั้น จะต้องมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียอย่างแท้จริงก่อน<br /><br />เราจึงขอเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ว่า<br /><br />1.ดำเนินการเพื่อขอถอนหมายจับแกนชาวบ้านทั้ง 6 คนในทันที<br /><br />2.ขอให้ระงับการดำเนินการตามโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมจากก๊าซธรรมชาติ ขนาดกำลังการผลิต 1,600 เมกะวัตต์ ที่จะก่อสร้างในพื้นที่ตำบลหนองแซง จังหวัดสระบุรี เสียก่อน เพื่อเปิดให้เกิดการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียอย่างแท้จริง<br /><br />3.รัฐต้องทบทวนนโยบายและความเดือดร้อนต่างๆที่มีผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก โดยเร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงๆจังๆ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนหรือผู้ที่ประสบปัญหาเหล่านั้นเขามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เพราะการโฆษณาหรือการพูดเพียงอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้ปัญหามันดีขึ้น<br /><br />สิ่งที่พี่น้องชาวบ้านที่หนองแซงประสบนั้น ไม่ต่างจากพวกเรา แทนที่รัฐหรือเจ้าหน้าที่จะหันมาแก้ปัญหาอย่างจริงๆจังๆ ตามความต้องการของพวกเขา กลับซ้ำเติมด้วยการออกหมายจับ โดยเฉพาะช่วงนี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่กรณี 3 ผู้นำชุมนุมกรณีเรียกร้องให้รัฐบาลมีการช่วยเหลือเรื่องราคาข้าวนาปรังที่ตกต่ำ ที่เชียงรายถูกที่จำคุก 6 เดือน เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552 ต่อด้วยสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย สหภาพแรงงาน อิเล็กทรอนิกส์และแม็คคานิคส์ในเครือ ซึ่งเป็นคนงานบริษัทเอนี่ออน อิเล็กทรอนิกส์(ไทยแลนด์) จำกัด และคนงานบริษัท เวิล์ลเวลล์การ์เม้นท์ที่เดินทางมายื่นข้อเรียกร้องและติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาของรับบาลบริเวณหน้าทำเนียบและรัฐสภา ในวันที่ 27 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากได้ได้รับความสนใจจากรัฐบาลแล้วยังถูออกหมายจับ 3 แกนนำ ด้วยข้อหาก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 และ 216 เช่นเดียวกับคนขายหวยจากจังหวัดเลยที่มาประท้วงกระทรวงการคลังไม่จัดสรรโควตาสลาก เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา และล่าสุดก็กรณีที่พี่น้องชาวบ้านที่หนองแซงประสบ<br /><br />การกระทำเช่นนี้เป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นธรรม มองชาวบ้านและแรงงานที่เดือดร้อนเป็นศัตรูของรัฐบาล กระทำการที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ลิดลอนสิทธิเสรีภาพ สิทธิพลเมืองของประชาชน เป็นการทำลายความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและได้ปลูกฝังความเกลียดชังรัฐที่ใช้อำนาจทางกฎหมายบีบบังคับชาวบ้านและแรงงานผู้เดือดร้อน ตลอดจนเป็นการกระทำที่สร้างความแตกแยกระหว่างประชาชนกับรัฐให้กว้างออกไปยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เราจึงเรียกร้องให้ยุติพฤติกรรมดังกล่าวเสียก่อนที่จะไม่มีโอกาสที่จะได้ยุติ<br /><br />หยุดมองประชาชนเป็นศัตรู เคารพสิทธิของประชาชน ประชาชนต้องมีส่วนร่วม<br /><br /><div align="right">บัส ประกายไฟ</div>bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-7603631269106398212009-10-19T03:07:00.000-07:002009-10-19T03:09:34.907-07:00แถลงการณ์:รถเมล์4,000คันต้องสร้างเป็นรัฐสวัสดิการ และมีประสิทธิภาพ<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiS_ncYwuxe6aNL79Wnv2SHQJhRQxuyXNt0obYJ3-1i_NXyw47NYJSPxy_6GuUS_RmVEs7KDicE19_Y2Pv4AC9sgt2zdndEMu99UmQI2XzlOTNC0yIr7R2PPCxg11Uu7mSpjcKcI9Z2LEhq/s1600-h/15915.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 320px; height: 163px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiS_ncYwuxe6aNL79Wnv2SHQJhRQxuyXNt0obYJ3-1i_NXyw47NYJSPxy_6GuUS_RmVEs7KDicE19_Y2Pv4AC9sgt2zdndEMu99UmQI2XzlOTNC0yIr7R2PPCxg11Uu7mSpjcKcI9Z2LEhq/s320/15915.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5394251058524594562" /></a><br /><br /><br />โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์<br />19 ตุลาคม 2552<br /><br />แถลงการณ์ การคมนาคมสาธารณะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน กรณีรถเมล์NGV 4,000 คันรัฐต้องสร้างเป็นรัฐสวัสดิการ ฟรี ถ้วนหน้า ครบวงจรและมีประสิทธิภาพ<br /><br />กลุ่มประกายไฟ<br />19 ตุลาคม 2552<br /><br />ในขณะที่เศรษฐกิจของสังคมไทยและสังคมโลกกำลังตกต่ำซึ่งแสดงให้เห็นว่าวิกฤติเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเศรษฐกิจแบบทุนนิยมเสมอ รวมทั้งปัญหาวิกฤตพลังงานที่ยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้ การคมนาคมขนส่งของประเทศโดยเฉพาะรถเมล์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของประชาชนผู้มีรายได้น้อยในกรุงเทพฯ <br /><br />รัฐบาลซึ่งควรมีหน้าที่โดยตรงในการให้หลักประกันความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสิทธิในการคมนาคมสาธารณะแก่ประชาชน แต่ในความเป็นจริงเวลานี้รัฐบาลกำลังพยายามผลักภาระค่าใช้จ่ายทางการคมนาคม และความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจให้ประชาชนจากการประกาศนโยบายเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งมีนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการ โดยรัฐบาลอ้างว่าเพื่อเป็นการลดการขาดทุนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)<br /><br />การประกาศนโยบายดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้แรงงานและผู้มีรายได้น้อยหรือคนจนในสังคมไทย ดังนี้ <br /><br />1.การใช้ระบบตั๋วอิเล็กโทรนิกส์(E-TICKET)นั้น ก่อให้เกิดการเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุก่อนกำหนดของพนักงานขสมก. ซึ่งมีจำนวนมากถึง 6,000-7,000 คน เพื่อให้ขสมก.มีกำไรตามที่ลัทธิเสรีนิยมใหม่ต้องการ ซึ่งการเลิกจ้างงานดังกล่าวทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งขาดรายได้ คุณภาพชีวิตแย่ลง อาจลุกลามไปสู่ปัญหาสังคมอื่นๆได้<br /><br />2.การใช้ระบบตั๋วอิเล็กโทรนิกส์ส่งผลกระทบต่ออัตราค่าโดยสาร ซึ่งจะต้องมีการเรียกเก็บเพิ่มขึ้นจากราคาเดิมเพื่อความคุ้มค่าต่อการลงทุนของรัฐบาล และผู้รับภาระอัตราค่าโดยสารที่เพิ่มขึ้นนั้นคือประชาชนส่วนใหญ่ที่มีรายได้ไม่มากนัก รวมทั้งกระทบต่อนโยบายรถเมล์ฟรีจากภาษีประชาชน ซึ่งรัฐบาลเคยให้การโปรโมตไว้นั้นมีทีท่าว่าจะต้องยุติลง <br /><br />3.การลดจำนวนพนักงานเก็บเงินและการนำระบบตั๋วอิเล็กโทรนิค(ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินระหว่างขึ้นรถ)มาใช้อาจก่อให้เกิดการจราจรติดขัดมากขึ้น เนื่องจากความล้าช้าในการต่อคิวเพื่อจ่ายเงินค่าโดยสารผ่านระบบตั๋วอิเล็กโทรนิค ที่อาจทำให้ต้องใช้เวลานานขึ้นในการจอดรับส่งผู้โดยสารในแต่ละป้าย จากทั้งสามประเด็นที่กล่าวมานั้น เราเห็นว่าประชาชนคนรากหญ้าก็จะต้องรับภาระด้านเศรษฐกิจและการคมนาคมเพิ่มมากขึ้น <br /><br />ดังนั้นการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันของรัฐบาลจึงควรจะมีมาตรการและสวัสดิการรองรับความเดือดร้อนของประชาชนที่มีรายได้น้อยไม่ต้องรับภาระทางเศรษกิจเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เราจึงเสนอให้ <br /><br />1.ในส่วนของแรงาน ขสมก. ที่จะได้รับผลกระทบนั้น การที่ ขสมก. จะเลิกจ้างหรือให้เกษียรอายุก่อนกำหนดหรือจะใช้มาตรการใดๆจะต้องคำนึงถึงความสมัครใจเป็นสิ่งสำคัญ และควรดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงภาครัฐต้องมีมาตรการรองรับคุณภาพชีวิตของบุคคลเหล่านั้น ที่มิใช่เพียงแค่เงินทดแทน(“ชดเชย”)จากภาครัฐเท่านั้น นอกจากนั้นรัฐจะต้องมีนโยบายการจ้างงานเต็มที่ (Full Employment) การขยายสิทธิประโยชน์ในการประกันรายได้และกาจ้างงานให้ถ้วนหน้าเป็นระบบและครบวงจร ทั้งนี้รวมถึงการรองรับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานที่ต้องออกจากงานก่อนกำหนด <br /><br />2.การที่รัฐจะออกมาให้ความเห็นว่า “ขสมก ขาดทุนมากกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี ต้องจ่ายดอกเบี้ยปีละ 3,000 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่ากำลังที่ ขสมก. จะจ่ายได้ จึงเป็นภาระของรัฐบาลที่จะต้องนำงบประมาณมาอุดหนุนปีละกว่า 9,000 ล้านบาท”{1} ถือเป็นการปัดความรับผิดชอบ เพราะการคมนาคมสาธารณะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่ปกติรัฐจะต้องจัดให้เป็นสวัสดิการ ดังนั้นการใช้จ่ายเงินงบประมาณที่รัฐมองว่าเป็นภาระนั้นแท้จริงแล้วมันคือหน้าที่ที่รัฐต้องจัดหาให้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว การเอาเรื่องผลกำไรมากล่าวอ้างในเรื่องกิจการสาธารณะที่เป็นสวัสดิการซึ่งเป็นหน้าที่ที่รัฐต้องรับผิดชอบต่อประชาชนจึงเป็นสิ่งที่ผิดและเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงการเบียงเบนประเด็นจากความไร้ความสามรถในการบริหารงานของรัฐบาล ดังนั้นแทนที่จะจะยกเลิกรถเมล์ฟรี รัฐบาลจึงควรจัดให้รถเมล์NGVทั้ง4,000 คันนั้นเป็นรถเมล์ฟรีเพื่อเป้นสวัสดิการให้แก่ประชาชนทั้งหมด <br /><br />3.ควรมีช่องจรจรสำหรับรถโดยสารประจำทางโดยเฉพาะทั้งระบบเพื่อความสะดวกต่อการจราจรสาธารณะซึ่งเป็นการสัญจรของคนส่วนมากในสังคม หรือพัฒนาเป็นรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษหรือบีอาร์ที (BRT) ที่นิยมใช้ในทวีปอเมริกาเหนือแล้ว หรือในบางภูมิภาคเช่นทวีปยุโรป หรือออสเตรเลีย อาจเรียกว่า "บัสเวย์" (Busway) หรือบางแห่งอาจเรียกชื่อเฉพาะสำหรับระบบในแต่ละเมือง เช่น ทรานส์จาการ์ต้า (TransJakarta) เป็นต้น เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของขนส่งสาธารณะ สร้างระบบขนส่งสาธารณะที่รวดเร็ว สะดวกสบายและประหยัด ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคหรือผู้ใช้ถนนในอนาคตต่อมา โดยเฉพาะหากทำควบคู่ไปกับมาตรการเชิงโครงสร้างในการขึ้นภาษีรถยนต์ส่วนบุคคลในอัตราก้าวหน้า อันจะนำไปสู่การลดปริมาณรถยนต์ส่วนบุคคลซึ่งใช้พื้นที่จราจรต่อบุคคลสูงกว่าซึงเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาการจรจรติดขัดลงได้ และยังสามารถนำเงินภาษีที่เก็บได้ดังกล่าวมาจัดเป็นสวัสดิการในการเดินทางของประชาชนในรูปของรถเมล์ฟรีที่มีประสิทธิภาพได้อีกด้วย<br />*********<br />เอกสารอ้างอิง{1}เดลินิวส์ . 2552. พรรคภูมิใจไทย:ทำไม? ต้องเช่ารถเมล์ NGV. เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 8 มิ.ย. 2552<br /><br />http://thaienews.blogspot.com/2009/10/4000.htmlbus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-23804529942804546962009-10-18T19:53:00.000-07:002009-10-18T19:54:24.950-07:00แถลงการณ์ การคมนาคมสาธารณะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน กรณีรถเมล์NGV 4,000 คันรัฐต้องสร้างเป็นรัฐสวัสดิการ ฟรี ถ้วนหน้า ครบวงจรและมีประสิทธิภาพกลุ่มประกายไฟ<br /><br />19 ตุลาคม 2552<br /><br /> <br /><br /> ในขณะที่เศรษฐกิจของสังคมไทยและสังคมโลกกำลังตกต่ำซึ่งแสดงให้เห็นว่าวิกฤติเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเศรษฐกิจแบบทุนนิยมเสมอ รวมทั้งปัญหาวิกฤตพลังงานที่ยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้ การคมนาคมขนส่งของประเทศโดยเฉพาะรถเมล์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของประชาชนผู้มีรายได้น้อยในกรุงเทพ<br /><br /> รัฐบาลซึ่งควรมีหน้าที่โดยตรงในการให้หลักประกันความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสิทธิในการคมนาคมสาธารณะแก่ประชาชน แต่ในความเป็นจริงเวลานี้รัฐบาลกำลังพยายามผลักภาระค่าใช้จ่ายทางการคมนาคมและความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจให้ประชาชนจากการประกาศนโยบายเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งมีนายโสภณซารัมภ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการ โดยรัฐบาลอ้างว่าเพื่อเป็นการลดการขาดทุนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)<br /><br /> การประกาศนโยบายดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้แรงงานและผู้มีรายได้น้อยหรือคนจนในสังคมไทย ดังนี้<br /><br /> 1.การใช้ระบบตั๋วอิเล็กโทรนิกส์(E-TICKET)นั้น ก่อให้เกิดการเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุก่อนกำหนดของพนักงานขสมก. ซึ่งมีจำนวนมากถึง 6,000-7,000 คน เพื่อให้ขสมก.มีกำไรตามที่ลัทธิเสรีนิยมใหม่ต้องการ ซึ่งการเลิกจ้างงานดังกล่าวทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งขาดรายได้ คุณภาพชีวิตแย่ลง อาจลุกลามไปสู่ปัญหาสังคมอื่นๆได้<br /><br /> 2.การใช้ระบบตั๋วอิเล็กโทรนิกส์ส่งผลกระทบต่ออัตราค่าโดยสาร ซึ่งจะต้องมีการเรียกเก็บเพิ่มขึ้นจากราคาเดิมเพื่อความคุ้มค่าต่อการลงทุนของรัฐบาล และผู้รับภาระอัตราค่าโดยสารที่เพิ่มขึ้นนั้นคือประชาชนส่วนใหญ่ที่มีรายได้ไม่มากนัก รวมทั้งกระทบต่อนโยบายรถเมล์ฟรีจากภาษีประชาชน ซึ่งรัฐบาลเคยให้การโปรโมตไว้นั้นมีทีท่าว่าจะต้องยุติลง <br /><br /> 3.การลดจำนวนพนักงานเก็บเงินและการนำระบบตั๋วอิเล็กโทรนิค(ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินระหว่างขึ้นรถ)มาใช้อาจก่อให้เกิดการจราจรติดขัดมากขึ้น เนื่องจากความล้าช้าในการต่อคิวเพื่อจ่ายเงินค่าโดยสารผ่านระบบตั๋วอิเล็กโทรนิค ที่อาจทำให้ต้องใช้เวลานานขึ้นในการจอดรับส่งผู้โดยสารในแต่ละป้าย<br /><br /> จากทั้งสามประเด็นที่กล่าวมานั้น เราเห็นว่าประชาชนคนรากหญ้าก็จะต้องรับภาระด้านเศรษฐกิจและการคมนาคมเพิ่มมากขึ้น<br /><br /> ดังนั้นการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันของรัฐบาลจึงควรจะมีมาตรการและสวัสดิการรองรับความเดือดร้อนของประชาชนที่มีรายได้น้อยไม่ต้องรับภาระทางเศรษกิจเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เราจึงเสนอให้<br /><br /> 1.ในส่วนของแรงาน ขสมก. ที่จะได้รับผลกระทบนั้น การที่ ขสมก. จะเลิกจ้างหรือให้เกษียรอายุก่อนกำหนดหรือจะใช้มาตราการใดๆจะต้องคำนึงถึงความสมัครใจเป็นสิ่งสำคัญ และควรดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงภาครัฐต้องมีมาตรการรองรับคุณภาพชีวิตของบุคคลเหล่านั้น ที่มิใช่เพียงแค่เงินทดแทน(“ชดเชย”)จากภาครัฐเท่านั้น นอกจากนั้นรัฐจะต้องมีนโยบายการจ้างงานเต็มที่ (Full Employment) การขยายสิทธิประโยชน์ในการประกันรายได้และกาจ้างงานให้ถ้วนหน้าเป็นระบบและครบวงจร ทั้งนี้รวมถึงการรองรับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานที่ต้องออกจากงานก่อนกำหนด <br /><br /> 2.การที่รัฐจะออกมาให้ความเห็นว่า “ขสมก ขาดทุนมากกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี ต้องจ่ายดอกเบี้ยปีละ 3,000 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่ากำลังที่ ขสมก. จะจ่ายได้ จึงเป็นภาระของรัฐบาลที่จะต้องนำงบประมาณมาอุดหนุนปีละกว่า 9,000 ล้านบาท”{1} ถือเป็นการปัดความรับผิดชอบ เพราะการคมนาคมสาธารณะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่ปกติรัฐจะต้องจัดให้เป็นสวัสดิการ ดังนั้นการใช้จ่ายเงินงบประมาณที่รัฐมองว่าเป็นภาระนั้นแท้จริงแล้วมันคือหน้าที่ที่รัฐต้องจัดหาให้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว การเอาเรื่องผลกำไรมากล่าวอ้างในเรื่องกิจการสาธารณะที่เป็นสวัสดิการซึ่งเป็นหน้าที่ที่รัฐต้องรับผิดชอบต่อประชาชนจึงเป็นสิ่งที่ผิดและเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงการเบียงเบนประเด็นจากความไร้ความสามรถในการบริหารงานของรัฐบาล ดังนั้นแทนที่จะจะยกเลิกรถเมล์ฟรี รัฐบาลจึงควรจัดให้รถเมล์NGVทั้ง4,000 คันนั้นเป็นรถเมล์ฟรีเพื่อเป้นสวัสดิการให้แก่ประชาชนทั้งหมด <br /><br /> 3.ควรมีช่องจรจรสำหรับรถโดยสารประจำทางโดยเฉพาะทั้งระบบเพื่อความสะดวกต่อการจราจรสาธารณะซึ่งเป็นการสัญจรของคนส่วนมากในสังคม หรือพัฒนาเป็นรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษหรือบีอาร์ที (BRT) ที่นิยมใช้ในทวีปอเมริกาเหนือแล้ว หรือในบางภูมิภาคเช่นทวีปยุโรป หรือออสเตรเลีย อาจเรียกว่า "บัสเวย์" (Busway) หรือบางแห่งอาจเรียกชื่อเฉพาะสำหรับระบบในแต่ละเมือง เช่น ทรานส์จาการ์ต้า (TransJakarta) เป็นต้น เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของขนส่งสาธารณะ สร้างระบบขนส่งสาธารณะที่รวดเร็ว สะดวกสบายและประหยัด ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคหรือผู้ใช้ถนนในอนาคตต่อมา โดยเฉพะหากทำควบคู่ไปกับมาตารการเชิงโครงสร้างในการขึ้นภาษีรถยนต์ส่วนบุคคลในอัตราก้าวหน้า อันจะนำไปสู่การลดปริมาณรถยนต์ส่วนบุคคลซึ่งใช้พื้นที่จราจรต่อบุคคลสูงกว่าซึงเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาการจรจรติดขัดลงได้ และยังสามารถนำเงินภาษีที่เก็บได้ดังกล่าวมาจัดเป็นสวัสดิการในการเดินทางของประชาชนในรูปของรถเมล์ฟรีที่มีประสิทธิภาพได้อีกด้วย<br /><br /> <br /><br />เอกสารอ้างอิง<br /><br />{1}เดลินิวส์ . 2552. พรรคภูมิใจไทย:ทำไม? ต้องเช่ารถเมล์ NGV. เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 8 มิ.ย. 2552bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-72423755281611665822009-10-18T18:23:00.000-07:002009-10-19T10:02:03.305-07:00รวมข่าวเสวนา: บททดสอบภาคประชาชน เมื่อสิทธิการชุมนุมถูกปราบโดยรัฐ<object width="500" height="285" data="http://www.voicetv.co.th/fplayer/player.swf" type="application/x-shockwave-flash"> <param name="flashvars" value="config=http%3A%2F%2Fwww.voicetv.co.th%2Ffplayer%2Fconfig.php%3Fvkey%3D558618686%26embed%3D1" /> <param name="movie" value="http://www.voicetv.co.th/fplayer/player.swf" /> <param name="allowfullscreen" value="true" /> <param name="bgcolor" value="#000000" /></object><br /><br /><br />ประชาไทรายงาน : เสวนา: บททดสอบภาคประชาชน เมื่อสิทธิการชุมนุมถูกปราบโดยรัฐ <br />Mon, 2009-10-19 02:00<br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj5O5AKOGgMym6Nt97YcsBHIJBn4e_p5cbmf8cPFEkfB_5DMyzzhGsAEGI-GxO4az3JY_-ly-l9hjtxBdhuFMwuuXHWaGoIY3hdgLWcdUBjxKdWdPypYYwLF3CuAzFtDZxPdB6oYlnNmdUl/s1600-h/use.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 320px; height: 236px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj5O5AKOGgMym6Nt97YcsBHIJBn4e_p5cbmf8cPFEkfB_5DMyzzhGsAEGI-GxO4az3JY_-ly-l9hjtxBdhuFMwuuXHWaGoIY3hdgLWcdUBjxKdWdPypYYwLF3CuAzFtDZxPdB6oYlnNmdUl/s320/use.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5394115857684875682" /></a> <br /><br /> <br />18 ต.ค.52 กลุ่มประกายไฟ จัดเสวนา เรื่อง “บททดสอบภาคประชาชน เมื่อสิทธิการชุมนุมถูกปราบโดยรัฐ” ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว <br /><br />ตัวแทนชาวบ้านหนองแซง กล่าวว่า การชุมนุมดังกล่าวเป็นการรวมตัวกันเรียกร้องขอความเป็นธรรมบนท้องถนน และเป็นการเรียกร้องให้ส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมหาทางออก เนื่องจากชาวบ้านรู้สึกถึงทางตัน ไม่มีหน่วยงานใดๆ สนใจปัญหาของพวกเขา และยืนยันการชุมนุมดังกล่าวไม่มีแกนนำ หากแต่เป็นความรู้สึกเก็บกดของชาวบ้านในพื้นที่ที่รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐด้วย อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านหนองแซงยังคงจะต่อสู้ต่อไปตามช่องทางต่างๆ ที่มี เพื่อปกป้องวิถีชีวิตและสิทธิของประชาชนในพื้นที่ <br /><br />ตัวแทนสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ กล่าวว่า รู้สึกตกใจกับการออกหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากการชุมนุมในวันดังกล่าวเป็นการยื่นหนังสือร้องเรียนต่อรัฐบาลแต่ไม่มีใครออกมารับหนังสือ และอยู่ระหว่างประสานให้มีตัวแทนออกมารับการร้องเรียน บรรยากาศการชุมนุมก็เป็นไปแบบสบายๆ ไม่ได้สร้างแรงกดดันใดๆ <br /><br />นายอานนท์ นำภา ทนายความจากสำนักกฎหมายมีสิทธิฯ กล่าวว่า ในวันอังคารนี้ (20 ต.ค.) จะยื่นคำร้องขอเพิกถอนหมายจับกรณีแรงงานไทรอัมพ์ แม้ว่าก่อนหน้านี้ศาลจะมีคำสั่งไม่ให้คัดสำเนาหมายจับและคำร้องขอออกหมายจับของพนักงานสอบสวน ซึ่งน่าจะเป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาก็ตาม อย่างไรก็ตาม เขาเห็นว่ากระบวนการออกหมายจับของไทยยังมีปัญหาอยู่มาก และจุดมุ่งหมายของการออกหมายจับก็มักมุ่งไปที่การทำให้ประชาชนประสบความยุ่งยากจนไม่สามารถไปเคลื่อนไหวอะไรได้ <br /><br />“ พ.ร.บ.กรชุมนุมสาธารณะที่จะออกมาก็น่าเป็นห่วง ทุกฝ่ายควรจับตาอย่างใกล้ชิด” อานนท์กล่าวและว่าวิธีแก้ปัญหานี้อาจต้องเปลี่ยนวิธีคิดของเจ้าหน้าที่และสังคม ตลอดจนทำให้วิถีการปกครองประเทศเป็นประชาธิปไตยมากกว่านี้<br /><br />อุเชนทร์ เชียงเสน นักศึกษาปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ยุทธวิถีการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนทุกกลุ่มมักจะดำเนินการผ่านช่องทางต่างๆ ตามปกติมาจนหมดแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถส่งเสียงสู่สังคมหรือส่วนที่เกี่ยวข้องให้แก้ปัญหาได้ จึงต้องเคลื่อนไหวโดยพยายามทำให้กลไกต่างๆ ของสังคมหรือรัฐ ไม่สามารถทำงานได้เพื่อดึงความสนใจของส่วนต่างๆ มายังปัญหาของพวกเขา ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ และเป็นความชอบธรรมของชาวบ้าน ผู้ด้อยโอกาสตลอดมา <br /><br />แต่หลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ทำให้เรื่องดังกล่าวมีความซับซ้อนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อแตกต่างสำคัญของกลุ่มประชาชนและขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองของพันธมิตรฯ อยู่ที่เป้าหมาย ซึ่งสำหรับประชาชนกลุ่มต่างๆ นั้นไม่ได้มีเป้าหมายที่เป็นปัญหากับระบอบประชาธิปไตย และไม่ได้ทำให้รัฐเป็นรัฐที่ล้มเหลว อีกทั้งการชุมนุมทางการเมืองหลายครั้งก็ไม่ได้ยืนอยู่บนหลักของการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธแต่อย่างใด <br /><br />“ที่ผ่านมานักวิชาการ นักสิทธิมนุษยชนต่างๆ ถนัดที่จะด่ารัฐเวลามีการปะทะกัน ซึ่งส่วนหนึ่งก็มีความจริงสอดคล้อง วันนี้มันซับซ้อนมากขึ้น ความรุนแรงไม่จำเป็นต้องมาจากเจ้าหน้าที่รัฐเสมอไป” อุเชนทร์กล่าว<br /><br />เขากล่าวอีกว่า เมื่อสถานการณ์วันนี้ซับซ้อนมากขึ้นและทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลายเริ่มเป็นจำเลยในบางกรณี อีกทั้งเกิดความแตกต่างกันระหว่างการจัดการกับการชุมนุมของฝ่ายต่างๆ จึงเห็นสมควรให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุมสาธารณะ แต่ไม่ใช่แบบที่รัฐบาลผลักดัน ทำให้ผู้ชุมนุมต้องขออนุญาตก่อนและสร้างเงื่อนไขต่างๆ มากมาย แต่ต้องเป็นกฏหมายที่ปกป้องสิทธิการชุมนุมของประชาชนให้เท่ากันทุกกลุ่ม และกำหนดขอบเขตว่าการชุมนุมที่เกินเลยไปจะไมได้รับการคุ้มครอง เช่น การพกพาอาวุธ และหากจะมีการสลายการชุมนุมก็ต้องมีความโปร่งใส ชัดเจน <br /><br />“การมีมาตรฐานแบบนี้อาจดีในแง่ที่ว่ามันปกป้องสิทธิการชุมนุมของคุณเท่ากันทุกคน ตั้งแต่องคมนตรีถึงคนเก็บขยะ” อุเชนทร์กล่าว <br /><br />ทั้งนี้ การเสวนาดังกล่าวจัดขึ้นเนื่องมาจากกรณี 3 ผู้นำที่ชุมนุมที่เชียงรายเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือราคาข้าวนาปรังถูกจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552 หลังจากนั้นเพียงเดือนเศษ สหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย สหภาพแรงงาน อิเล็กทรอนิกส์และแม็คคานิคส์ในเครือ ซึ่งเป็นคนงานบริษัทเอนี่ออน อิเล็กทรอนิกส์(ไทยแลนด์) จำกัด และคนงานบริษัท เวิล์ลเวลล์การ์เม้นท์ที่เดินทางมายื่นข้อเรียกร้องและติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาของรับบาลบริเวณหน้าทำเนียบและรัฐสภา ในวันที่ 27 สิงหาคม ถูกสลายการชุมนุมด้วยเครื่องทำลายประสาทหูหรือ LRAD และถูกออกหมายจับ 3 แกนนำ ด้วยข้อหาก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง เช่นเดียวกับคนขายหวยจากจังหวัดเลยที่มาประท้วงกระทรวงการคลังไม่จัดสรรโควตาสลาก เมื่อวันที่ 23 กันยายน ล่าสุด กรณีแกนนำชาวบ้านหนองแซง จังหวัดสระบุรี 6 คนถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหาปิดถนนทางสาธารณะ ภายหลังการชุมนุมบนถนนสายพหลโยธินตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2552 และได้ยุติการชุมชนในวันที่ 25 กันยายน 2552 เพื่อแสดงตัวตนและสื่อสารต่อสาธารณะของชาวบ้านที่เป็นเหยื่อของการพัฒนาที่ไม่เป็นธรรมและขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนผู้เป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติ<br /><br />ที่มา ประชาไท<br /><br /><br /><strong>สำนักข่าวไทยรายงาน :เอ็นจีโอ หนุน พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ</strong><br /><br />ราชดำเนิน 18 ต.ค. - เอ็นจีโอ หนุน พ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะ ชี้คือทางออกชุมนุมอย่างไรไม่ถูกจับ เผยปัญหา เจ้าหน้าที่ปฏิบัติ 2 มาตรฐาน ชาวบ้าน-คนงานปิดถนน เรียกร้องสิทธิถูกจับติดคุก ขณะที่การชุมนุมทางการเมืองทำได้<br /><br />ในงานเสวนาเรื่องบททดสอบภาคประชาชน เมื่อสิทธิการชุมนุมถูกปราบโดยรัฐ จัดโดยกลุ่มประกายไฟ ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ นางปฐมมน กัลหา ตัวแทนกลุ่มคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าหนองแซง กล่าวว่าการชุมนุมของชาวบ้านที่ผ่านมา ไม่ได้ต้องการปิดถนนให้ผู้อื่นเดือดร้อน แต่เป็นการแสดงออก เพื่อขอความเป็นธรรมบนท้องถนน หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถให้ความเป็นธรรมได้ แต่ผลที่ได้รับทำให้ชาวบ้าน 6 คนถูกออกหมายจับ ซ้ำแกนนำ 3 คนที่ถูกจับกุม กลับไม่ได้รับการประกันตัวในตอนแรก สะท้อนการใช้อำนาจของรัฐที่เลือกปฏิบัติ เพราะผู้ต้องหาฆ่าคนตายยังได้รับการประกันตัว แต่พวกตนต่อสู้เรียกร้องเพื่อวิถีเกษตรกรรมดั้งเดิม กลับถูกจับเข้าคุก<br /><br />ด้าน น.ส.บุญรอด สายวงศ์ เลขาธิการสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ กล่าวว่า กรณีของคนงานไทรอัมพ์ ชุมนุมเรียกร้อง เพราะถูกเลิกจ้างเกือบ 2,000 คน เมื่อมาทวงถามความคืบหน้าที่หน้าทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาหลังจากยื่นข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและกระทรวงแรงงานช่วยเหลือไปแล้วเกือบ 20 วันกลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้เครื่องขยายเสียงความถี่สูง หรือ แอลแรด เปิดใส่ทำให้คนงานได้รับบาดเจ็บ หูชั้นกลางอักเสบนับ 10 คน จากนั้นแกนนำยังถูกออกหมายจับ อีก 3 คน นับเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม เพราะการชุมนุมเรีกร้องเพื่อปากท้องของตนกลับได้รับการปฏิบัติอย่างรุนแรงจากเจ้าหน้าที่<br /><br />นายอุเชน เชียงเสน นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนและการรวมตัวของชาวบ้าน กล่าวว่าทั้ง 2 กรณีที่เกิดขึ้นกับชาวบ้าน รวมไปถึงกรณีอื่นๆ เช่น ม็อบชาวนาที่จังหวัดเชียงราย ที่ล่าสุดถูกศาลสั่งจำคุก 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา ทำให้สังคมต้องกลับตั้งคำถามว่า การใช้สิทธิชุมนุมอย่างสงบตามรัฐธรรมนูญ ยังสามารถทำได้อยู่หรือไม่ เพราะปัญหาเกิดขึ้นเมื่อนำไปเทียบกับการชุมนุมทางการเมือง ที่ผ่านมา ที่มีการยึดสนามบิน กลับไม่ถูกจับกุมและคดีเป็นไปอย่างล่าช้า ดังนั้น ตนอยากสนับสนุนให้มี พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะเพื่อให้การชุมนุมนับจากนี้เกิดความชัดเจน. <br /><br />ที่มา สำนักข่าวไทย อัพเดตเมื่อ 2009-10-18 16:28:40 http://news.mcot.net/social/inside.php?value=bmlkPTEyMDk3NCZudHlwZT10ZXh0<br /><br /><strong>ASTVผู้จัดการออนไลน์รายงาน : เครือข่ายภาค ปชช.จัดเสวนาเรียกร้องการรวมตัวต่อสู้อำนาจรัฐ</strong><br /><br /> เครือข่ายภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสิทธิการชุมนุมทางกฎหมาย เรียกร้องให้เกิดการรวมตัวเพื่อต่อสู้กับอำนาจรัฐที่ไม่เห็นความสำคัญของประชาชน ส่วนหนึ่งของการเสวนาแบบทดสอบภาคประชาชน เมื่อสิทธิการชุมนุมถูกปราบโดยรัฐ<br /><br /> น.ส.ปฐมมล กันหา ตัวแทนกลุ่มคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าหนองแซง จ.สระบุรี กล่าวว่า ชาวบ้านที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม กำลังถูกภาครัฐจับกุมและฟ้องร้องแกนนำแต่ละคน และมีคดีติดตัวอย่างน้อยคนละ 3-5 คดี โดยอ้างว่าการปิดเส้นทางสาธารณะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ วิธีการหรือกฎหมายที่รัฐบาลใช้กับชาวบ้าน เป็นคนละมาตรฐานที่ใช้กับนายทุน<br /><br /> เช่นเดียวกับกรณีของแรงงานไทรอัมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย ที่ถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม หลังจากไปยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหา ถูกทำการสลายการชุมนุมด้วยเครื่องทำลายประสาทหู และถูกตำรวจออกหมายแกนนำ 3 คน ในข้อหาก่อความวุ่นวายให้บ้านเมือง<br /><br /> น.ส.จิตรา คชเดช ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ เปิดเผยว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นล้วนมาจากรัฐบาลทั้งสิ้น ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้กับประชาชน ดังนั้นผู้ที่เดือดร้อนควรจะรวมตัวกันต่อรองกับอำนาจรัฐ หรือเข้าสู่การใช้อำนาจรัฐ<br /><br />ที่มา http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9520000123930bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-28753451845462849572009-10-18T18:19:00.000-07:002009-10-18T18:23:32.642-07:00ล่าชื่อร่อนแถลงการณ์ อย่าใช้ความรุนแรงกับม็อบเสื้อแดง สะกิดเอ็นจีโอ นักวิชาการ อย่า 2 มาตรฐานSat, 2009-10-17 00:26<br /><br />องค์กรนักศึกษานำโดย สนนท. นักวิชาการ นักกิจกรรมสังคม นักสหภาพแรงงาน องค์กรภาคประชาชน ร่วมกันออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายไม่ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม นปช.เสื้อแดง ในการจัดชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลวันที่ 17ตุลาคมนี้ จี้รัฐบาล สื่อ เอ็นจีโอ-องค์กรสิทธิ-นักวิชาการ อย่า 2 มาตรฐานกับม็อบ<br /><br />ทั้งนี้กลุ่มประชาชนที่ร่วมกันออกแถลงการณ์ ยังได้เผยว่า ได้ทำสำเนาเชิญชวนการลงนามไปยังบุคคล กลุ่ม และองค์กรที่เคยสนับสนุนการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนด้วยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามว่าจะมีการร่วมลงนามในครั้งนี้ด้วยหรือไม่<br /><br />สำหรับรายละเอียดของแถลงการณ์มีดังต่อไปนี้<br /> <br /> <br /> <br /><strong>แถลงการณ์<br />ขอเรียกร้องไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม</strong><br /> <br />ตามที่แนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงจะจัดการชุมนุมขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อควบคุมการชุมนุม และมีแนวโน้มที่อาจเกิดความรุนแรงได้นั้น พวกเรา ซึ่งมีรายนามดังแนบท้ายแถลงการณ์นี้ ขอเรียกร้องมายังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้<br /> <br />1.รัฐบาล กองทัพ ตำรวจ และชนชั้นนำ ไม่ควรเลือกปฏิบัติเป็น 2 มาตรฐาน โดยสมควรต้องยกเลิกการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ และให้ประชาชนทุกฝ่ายสามารถจัดการการชุมนุมได้โดยสงบ ปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญ เว้นแต่จะเกิดเหตุความไม่สงบขึ้น จึงสมควรจะประกาศบังคับใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ทั้งนี้ต้องไม่ให้กองกำลังทหาร ซึ่งไม่ได้ฝึกฝนมาควบคุมฝูงชนเข้าทำหน้าที่ควบคุมฝูงชน และสมควรต้องเร่งผลักดันกฎหมายการชุมนุมสาธารณะออกมาบังคับใช้เพื่อควบคุมการชุมนุมเป็นไปตามมาตรฐานสากลโดยเร็ว<br /> <br />2.ผู้รับผิดชอบการจัดการชุมนุม โดยเฉพาะแกนนำ นปช. ต้องควบคุมจัดการการชุมนุมให้เป็นไปโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญ ไม่ยั่วยุให้ก่อความรุนแรง หรือยึดสถานที่ราชการแบบที่กลุ่มพันธมิตรเคยปฏิบัติ แม้การกระทำเช่นนั้น จะยังไม่ถูกดำเนินคดีถึงขั้นจำคุกตามกฎหมายก็ตาม หากเกิดความรุนแรงใดๆ จากการที่ไม่สามารถควบคุมการชุมนุมได้ หรือนำไปสู่ความรุนแรง ย่อมเป็นความรับผิดชอบของแกนนำ หรือผู้จัดการชุมนุมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนผู้ชุมนุมพึงใช้สิทธิตามกฎหมาย หลีกเลี่ยงการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงใดๆ<br /> <br />3.สื่อมวลชน ต้องนำเสนอข่าวการชุมนุมด้วยความเป็นกลาง ปราศจากอคติใดๆ หรือชี้นำให้เกิดความรุนแรง หลีกเลี่ยงการยั่วยุใดๆ เหมือนที่เคยปฏิบัติมาในช่วงเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อตอนสงกรานต์ที่ผ่านมา<br /> <br />4.นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ และองค์การพัฒนาภาคเอกชน ทั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และองค์กรสิทธิมนุษยชน ภาคเอกชน และนักวิชาการ สมควรต้องออกมาแสดงบทบาทเหมือนกับที่เคยออกมาสนับสนุนให้พันธมิตรจัดการชุมนุม ‘โดยสันติวิธี’ ทุกครั้ง ทุกโอกาส และสมควรต้องออกมาเรียกร้องไม่ให้รัฐใช้ความรุนแรงแบบเดียวกับที่เคยปฏิบัติมา หากเพิกเฉยย่อมแปลความเป็นอย่างอื่นมิได้ นอกจากเป็นการยอมรับว่า ปฏิบัติเป็น 2 มาตรฐาน ให้ท้ายพันมิตร แต่เพิกเฉยหรือซ้ำเติมต่อ นปช. เหมือนครั้งเหตุการณ์เมื่อวันสงกรานต์ ที่เคยออกแถลงการณ์สนับสนุนให้รัฐบาลปราบปราม นปช.มาแล้ว ซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่น่าอับอาย<br /> <br />5.นักกิจกรรมสังคมที่ต้องการสันติ เช่น กลุ่มริบบิ้นขาว สถาบันพระปกเกล้าฯ กลุ่มรณรงค์หยุดทำร้ายประเทศไทย ที่เคยออกมารณรงค์ให้ "ทุกฝ่าย" ไม่ใช้ความรุนแรงต่อกัน ขณะนี้ได้เวลาที่ต้องออกมาแสดงบทบาทแล้ว หากเพิกเฉยก็อาจเข้าข่ายเลือกปฏิบัติ 2 มาตรฐาน<br /> <br />6.ประชาชน พึงทราบและตระหนักว่า การจัดการชุมนุมทางการเมืองโดยสงบ ปราศจากอาวุธ เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และความขัดแย้งทางการเมือง ถือเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย และจะทำให้ประชาธิปไตยพัฒนาก้าวหน้า พึงเข้าใจว่า คนที่มาร่วมการชุมนุมทางการเมืองนั้น ส่วนมากเป็นคนที่กระตือรือร้นต่อการพัฒนาชาติบ้านเมือง เป็นคนที่มีครอบครัว มีเลือดเนื้อ มีจิตใจเช่นเดียวกับคนไทยทั่วไป ไม่ได้เป็น ‘อื่น’ ประชาชนจึงสมควรจะสนับสนุนกิจกรรมการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย ตราบเท่าที่ไม่ละเมิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น<br /> <br />ด้วยความเชื่อมั่น <br />17 ตุลาคม 2552<br /> <br /> <br /> <br />องค์กรและบุคคลที่ร่วมลงนาม<br /> <br />อนุธีร์ เดชเทวพร เลขาธิการ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)<br />พงษ์สุวรรณ สิทธิเสนา สถาบันเพื่อการพัฒนาเยาวชนประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยรามคำแหง<br />ยุทธนา ดาศรี เลขาธิการนิสิตนักศึกษาภาคอีสาน มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี<br />นฤมล มีสมบัติ กรรมการบริหาร สนนท. ( ม.รามคำแหง )<br />อัมรีย์ เด กรรมการบริหาร สนนท. (ม.กรุงเทพธนบุรี)<br />ฉัตรสุดา หาญบาง กรรมการบริหาร สนนท.( มรฏ.สวนดุสิต)<br />ยุทธนา ภักดีหาญ กลุ่มยอป่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น<br />วิศรุต บุญยา เครือข่ายนักศีกษาพิทักษ์ประชาชน รามคำแหง<br />วิภา ดาวมณี กรรมการเครือข่ายเดือนตุลา<br />ไพโรจน์ จันทรนิมิ ประธานชมรมนักข่าวเพื่อเสรีภาพไทย<br />พิษณุ ไชยมงคล ผู้อำนวยการ สำนักเรียนรู้การกระจายอำนาจและปกครองตนเอง<br />วัฒนะ วรรณ องค์กรเลี้ยวซ้าย<br />เทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกกลุ่มประกายไฟ<br />สุชาติ เศรษฐมาลินี สถาบันศาสนา วัฒนธรรมและสันติภาพ มหาวิทยาลัยพายัพ<br />สมศักดิ์ ภักดิเดช กรรมการชมรมนักข่าวเพื่อเสรีภาพไทย<br />สิทธิ์ จันทาเทศ สหภาพแรงงานกรุงเทพผลิตเหล็ก<br />บุญผิน สุนทราลักษ์ สหภาพแรงงานกรุงเทพผลิตเหล็ก<br />นายสัณหณัฐ นกเล็ก องค์กรเสรีปัญญาชน<br />พรมมา ภูมิพันธ์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์<br /> หนังแห่งประเทศไทย (ส.พ.ท.)<br />สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์ หนังแห่งประเทศไทย (ส.พ.ท.)<br />สหภาพแรงงานไทยอคริลิคไฟเบอร์<br />สหภาพแรงานสหกิจวิศาล<br />พฤกษ์ เถาถวิล คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี<br />สลิสา ยุกตะนันทน์ นักศึกษาปริญญาโท University of Warwick<br />ภัควดี วีระภาสพงษ์<br />ชำนาญ จันทร์เรือง<br />ใจ อึ๊งภากรณ์<br />จิรวัฒน์ เทียนเงิน<br />เขมนิจ เสนาจักร<br />ครรชิต พัฒนโภคะ องค์กรเลี้ยวซ้าย<br />ภัทรพล เสนาจักร<br />บุหงา เสนาจักร<br />ปรินดา วานิชสันต์<br />จักรภพ เพ็ญแข<br />นุชรินทร์ ต่วนเวช<br />สุณี ครองพิพัฒน์สุข<br />อาทร ทศพหล<br />น.ส.วัลภา ทันตานนท์<br />สุรีย์ มิ่งวรรณลักษณ์<br />วิทยา อาภรณ์<br />ประสาท ศรีเกิด<br />พิชิต พิทักษ์<br />เก่งกิจ กิติเรียงลาภ<br />วิโรจน์ ดุลยโสภณ<br />เจษฎา โชติกิจภิวาทย์<br />อาณัติ สุทธิเสมอ<br />ศรายุทธ ตั้งประเสริฐ<br />Tanaporn Tornros<br />รุ่งโรจน์ วรรณศูทร<br />ยรรยง ลูกชาวดิน กลุ่มชาวดิน ออนเน็ต<br />คณิตศาสตร์ สารบุญมา<br />อรรคพล สาตุ้ม<br />วิทยา เล้าประเสริฐ<br />ทิพย์สุดา เณรทอง<br />ชัยอนันต์ ทินกูล<br />นางสาวจินตภัทร์ แถมพูลสวัสดิ์<br />นางสาวทารินี ทรงเกียรติธนา<br />เดโช กำลังเกื้อ<br />นพดล ทิพยชล<br />พศิน สุนทราธนกุล<br />กานต์ ทัศนภักดิ์<br />ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์<br />ธีระพล อันมัย อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี<br />ผศดร.ศิรภัสสรศ์ วงศ์ทองดี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ<br />เอกรินทร์ ต่วนศิริ นักศึกษาปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย<br />นาง ธนพร ทรอนโรส<br />อรรถชัย อนันตเมฆ <br /> <br /><br />ในตอนท้ายแถลงการณ์ ยังได้เชิญชวนร่วมกันเผยแพร่แถลงการณ์ไปยังมิตรสหาย และร่วมกันลงนาม โดยระบุที่อยู่ส่งกลับที่ อีเมล์ redseed1@gmail.com ภายในเวลา 08.00 น.วันเสาร์ที่ 17 ต.ค.นี้bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-74216568803848697232009-10-18T18:09:00.000-07:002009-10-18T18:19:42.085-07:00ร้องถอนหมายจับผู้นำสหภาพแรงงาน- กก.สิทธิ ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ ตร.Sat, 2009-09-05 11:19<br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjuzcg7EaU_j4tpJI2dRkqSMFWWk5tWXyW40xoc1yqueoocvS5kwOVIsWDdg7UtcNkG1C7zf3EpMAyf_-xw-c3IJWPB8XlBAPkXucsHxUc3mh2nMFMMiRtuRmRLy_vJMIqNiwk-xjLkOss2/s1600-h/P1210064.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 320px; height: 208px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjuzcg7EaU_j4tpJI2dRkqSMFWWk5tWXyW40xoc1yqueoocvS5kwOVIsWDdg7UtcNkG1C7zf3EpMAyf_-xw-c3IJWPB8XlBAPkXucsHxUc3mh2nMFMMiRtuRmRLy_vJMIqNiwk-xjLkOss2/s320/P1210064.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5394114064112732962" /></a><br /><br /> <br /><br /> <br /> <br />(4 ก.ย.) เมื่อเวลา 16.00น. ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ มีการแถลงข่าวประณามการออกหมายจับแกนนำสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ และการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เป็นผู้อ่านแถลงการณ์ซึ่งร่วมลงชื่อโดยองค์กร ประชาชน นักกิจกรรมทางสังคม นักวิชาการ กว่า 150 คน เรียกร้องให้ถอนการออกหมายจับที่ไม่เป็นธรรมกับผู้นำสหภาพแรงงาน โดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไม่มีการจับกุมตามหมายจับ และดำเนินเพื่อร้องขอกับศาลให้มีการถอนหมายจับโดยทันที<br /> <br />นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการตามข้อเรียกร้องของสหภาพ ที่ได้ยื่นให้รองเลขาธิการฝ่ายการเมืองโดยเร็วที่สุด และเรียกร้องให้รัฐบาล และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน นำโดย พล.ต.ต วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 โดยทางตำรวจได้เปิดเครื่องขยายเสียงที่มีเสียงดังมาก ได้รับผลกระทบต่อคนงานผู้หญิง คนงานพิการ และอายุมากที่ได้นั่งฟังปราศรัยหน้าทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ตัวแทนของสหภาพกำลังเข้าไปยื่นหนังสือกับนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ประจำรัฐสภา และการขอออกหมายจับผู้นำสหภาพ โดย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ว่า เป็นการละเมิดสิทธิทางพลเมืองและทางการเมือง รวมถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม<br /> <br />ธัญยธรณ์ คีรีถาวรพัฒน์ รองประธานสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ กล่าวว่า หลังกลับจากการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา คนงานหลายคนมีอาการปวดหู ปวดศีรษะ และคลื่นไส้ บางรายมีอาการปวดเบ้าตา โดยบางคน แพทย์วินิจฉัยว่า หูชั้นกลางอักเสบ หลายคนมีอาการข้างเคียงคือ พูดกันไม่ค่อยเข้าใจ เนื่องจากสมองเบลอ ซึ่งอาการเหล่านี้คือผลกระทบจากการที่ตำรวจใช้เครื่องขยายเสียง <br /> <br />ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวมีการนำใบรับรองแพทย์ของคนงานซึ่งได้รับผลกระทบจากการใช้เครื่องขยายเสียงระดับไกลหรือ LRAD มาแสดงด้วย<br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhUy8pl-urn2kXmojEvc0O1s2fBydjXeDX3n-TA04MIGQDz2i3YDmORDznWvlemJ1sNVne50tvvwHmb3A-JmDSkmY3UJir-KkqL74cnZUM3egm8fRF2_s9uQj0FsjaXm6CH3H64EP2Av_6Q/s1600-h/P1210067.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 320px; height: 184px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhUy8pl-urn2kXmojEvc0O1s2fBydjXeDX3n-TA04MIGQDz2i3YDmORDznWvlemJ1sNVne50tvvwHmb3A-JmDSkmY3UJir-KkqL74cnZUM3egm8fRF2_s9uQj0FsjaXm6CH3H64EP2Av_6Q/s320/P1210067.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5394114072724238514" /></a><br /><br /><br /><br />ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสว่า ตำรวจเพียงแต่เปิดลำโพงเพื่อประกาศเตือนการปิดถนนหน้ารัฐสภาที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ไม่ได้มีเจตนาจะสลายการชุมนุม พร้อมทั้งระบุด้วยว่าขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการออกหมายจับคนงานเพิ่ม <br /> <br />000000<br /> <br /> <br /><strong>ประณามการออกหมายจับแกนนำสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ และการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ </strong><br /><br /> พวกเรา องค์กร และบุคคลข้างล่าง ขอประณามการออกหมายจับ นายสุนทร บุญยอด น.ส.บุญรอด สายวงศ์ (เลขาธิการสหภาพแรงงานไทรอัมพ์) และ น.ส.จิตรา คชเดช (ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานไทรอัมพ์) โดยสถานีตำรวจนครบาลเขตดุสิต ต่อการใช้สิทธิการชุมนุมอย่างสันติ ในวันพฤหัสที่ 27 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการชุมนุมอย่างสันติ โดยคนงานผู้หญิง ที่รวมถึงคนงานที่ท้อง และพิการ จำนวน 1,000 คน ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกเลิกจ้าง <br /> โดยทาง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นว่า การชุมนุมอย่างสันตินี้ เข้าข่าย การมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215 และมาตรา 216 ที่มีโทษหนักถึงจำคุกเป็นระยะเวลา 3 ปี <br /><br />ทางพวกเรามีความเห็น ดังนี้: <br /> <br />1. การออกหมายจับครั้งนี้ เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และเป็นการใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ (excessive uses of force) เนื่องจากสิทธิการชุมนุมอย่างสันติ ที่สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ กระทำเพื่อเรียกร้องให้มีการออกมารับหนังสือโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นสิทธิเสรีภาพที่ได้รับความคุ้มครอง ภายใต้รัฐธรรมนูญ และกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกภาคี <br /> <br />2. การชุมนุมที่เกิดขึ้น เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมที่มีความชอบธรรม เนื่องจากเป็นการชุมนุมของคนงานที่ได้รับผลกระทบจากการถูกเลิกจ้าง จำนวน 1,959 คน และเป็นการชุมนุมที่สืบเนื่องมาจาก การยื่นหนังสือต่อรองเลขาธิการฝ่ายการเมือง ประจำทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2552 เพื่อติดตามว่า รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างไรไปแล้วบ้าง <br /> <br />3. การให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในหนังสือพิมพ์ไอเอ็นเอ็น ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด เนื่องจากการชุมนุมของสหภาพแรงงานฯ ทั้งหน้าทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา นั้น ได้เป็นไปตามกรอบสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสันติ ตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศได้รับรองไว้ และไม่ได้มีการปิดถนนหน้าทำเนียบรัฐบาล ตามที่พล.ต.ท.วรพงษ์ได้กล่าวอ้างแต่อย่างใด แต่การที่ถนนหน้ารัฐสภาปิดเกิดขึ้น เนื่องจากการไร้ความรับผิดชอบโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอำนวยความสะดวก ทำให้มีรถวิ่งสวนกับผู้ชุมนุมมากมาย และไม่ได้มีการปิดรัฐสภาแต่อย่างใด โดยรถยนต์และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็สามารถเข้าออกได้อย่างไม่มีปัญหา <br /> <br />4.การตอบโต้การชุมนุมครั้งนี้ โดย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ในการนำเครื่องขยายเสียงระดับไกล (LRAD: Long Range Acoustic Device) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้โดยทหารสหรัฐในสงครามอิรัก มาเปิดช่วงที่คนงานหญิงได้ชุมนุมกันอย่างสันติ และในช่วงที่กำลังประสานงานกับ นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน เข้ามารับหนังสือ ถือเป็นการกระทำที่ประสงค์จะให้มีการสลายการชุมนุม อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยตรง เนื่องจากได้สร้างความเจ็บปวดในระบบหูให้กับคนงานจำนวนมาก โดยเฉพาะคนงานที่มีอายุมาก ซึ่งองค์กรสิทธิมนุษยชนในต่างประเทศได้ให้ความเห็นว่า เครื่องขยายเสียงนี้สามารถทำลายระบบหู จนทำให้ไม่ได้ยินไปตลอดชีวิตได้ หากมีการเปิดในระยะใกล้กับผู้ชุมนุม ซึ่งในกรณีนี้มีการเปิดใกล้กับผู้ชุมนุมมาก (ห่างจากผู้ชุมนุมในระยะ 1-2 เมตรเท่านั้น) อีกทั้ง การดำเนินการดังกล่าวไม่มีเหตุใดๆที่จะนำเครื่องขยายเสียงมาดำเนินการแต่อย่างใดมาใช้ เนื่องจากดังที่กล่าวแล้วข้างต้นว่า ผู้ชุมนุมได้ชุมนุมกันอย่างสันติโดยชอบด้วยกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่มีอำนาจใดๆดำเนินการเพื่อให้มีการสลายการชุมนุม<br /> <br />สืบเนื่องจากความเห็นของพวกเรา เราจึงมีข้อเรียกร้อง ดังนี้: <br /> <br />1.เราขอเรียกร้องให้ถอนการออกหมายจับที่ไม่เป็นธรรม กับผู้นำสหภาพแรงงาน โดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไม่มีการจับกุมตามหมายจับ และดำเนินเพื่อร้องขอกับศาลให้มีการถอนหมายจับโดยทันที <br />2. เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการตามข้อเรียกร้องของสหภาพ ที่ได้ยื่นให้รองเลขาธิการฝ่ายการเมืองโดยเร็วที่สุด <br />3. เราขอเรียกร้องให้รัฐบาล และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน นำโดย พล.ต.ต วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 โดยทางตำรวจได้เปิดเครื่องขยายเสียงที่มีเสียงดังมาก ได้รับผลกระทบต่อคนงานผู้หญิง คนงานพิการ และอายุมากที่ได้นั่งฟังปราศรัยหน้าทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ตัวแทนของสหภาพกำลังเข้าไปยื่นหนังสือกับนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ประจำรัฐสภา และการขอออกหมายจับผู้นำสหภาพ โดย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ว่า เป็นการละเมิดสิทธิทางพลเมืองและทางการเมือง รวมถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม <br /> <br />31 สิงหาคม 2552 <br /> <br />สมัชชาคนจน <br />คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน(ครส.)<br />มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) <br />มูลนิธิศักยภาพชุมชน<br />สหภาพแรงงานไทยอินดัสเตรียลแก๊ส<br />สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์ แห่งประเทศไทย<br />สหภาพแรงงานไทยอคริลิคไฟเบอร์<br />กลุ่มผู้ใช้แรงานสระบุรีและใกล้เคียง<br />สหภาพแรงงานสหกิจวิศาล<br />สหภาพแรงงานชินาโนเคนชิ ประเทศไทย<br />สหภาพแรงงานแฟชั่นเอ็กซ์เพรส<br />สหภาพแรงงานไทยเปอร์อ๊อกไซด์<br />สหภาพแรงงานอดิตยาเบอร์ล่าเคมีคัลส์ซัลไฟล์สดิวิชั่น ประเทศไทย<br />ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย(YPD)<br /><strong>กลุ่มประกายไฟ</strong><br />กลุ่มรองเท้าแตะ<br />กลุ่มประสานงานกรรมกร<br />กลุ่มประชาธิปไตยเพื่อรัฐสวัสดิการ<br /> <br />เกษียร เตชะพีระ คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์<br />สุณัย ผาสุข นักสิทธิมนุษยชน<br />รศ.กฤตยา อาชวนิจกุล สถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล<br />อังคณา นีละไพจิตร ผู้เขียนรายงานประเทศตามกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองฉบับที่สอง<br />พันโท แพทย์หญิง กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี นายกสมาคมเครือข่ายผู้ปกครองแห่งชาติ/ประธานเครือข่ายพ่อแม่เยาวชนเพื่อการปฏิรูปการศึกษา/สมาชิกสภาพัฒนาการเมือง<br />นายชาตวิทย์ มงคลแสน นายกสมาคมพัฒนาผู้บริโภคไทย<br />นายบุญยืน สุขใหม่ ประธานสหภาพแรงงานผู้บังคับบัญชาไอทีเอฟ<br />พรมมา ภูมิพันธ์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอฯ<br />นที สรวารี นายกสมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน<br />พวงทอง ภวัครพันธุ์ รัฐศาสตร์ จุฬา <br />พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย<br />อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่<br />เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว ศูนย์สิทธิมนุษยชนศึกษาและการพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล<br />ศรีประภา เพชรมีศรี อาจารย์ประจำศูนย์สิทธิมนุษยชนศึกษา ม.มหิดล<br />วัชรพล ศุภจักรวัฒนา อาจารย์ประจำสาขารัฐศาสตร์เเละรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ ม.นเรศวร <br />ปาณัสม์ชฎา ธนภาคิน อาจารย์ประจำคณะบริหารรัฐกิจ ม.ฟาร์อีสเทิร์น <br />บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ บรรณาธิการนิตยสารวิภาษาและอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง<br />Nivedita Menon School of International Studies Jawaharlal Nehru University<br />ภัควดี วีระภาสพงษ์ ประชาชน<br />ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความ<br />สมบัติ บุญงามอนงค์ มูลนิธิกระจกเงา <br />วิภา ดาวมณี กรรมการเครือข่ายเดือนตุลา<br />ศิโรตน์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระทางด้านรัฐศาสตร์ <br />สุภิญญา กลางณรงค์ เครือข่ายพลเมืองเน็ต (Thai Netizen Network)<br />สุชาติ เศรษฐมาลินี สถาบันศาสนา วัฒนธรรมและสันติภาพ มหาวิทยาลัยพายัพ<br />บุษยรัตน์ กาญจนดิษฐ์ ฝ่ายวิชาการ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย <br />เจษฎา โชติกิจภิวาทย์ ผู้ประสานงานกลุ่มประชาธิปไตยเพื่อรัฐสวัสดิการ<br />สงกรานต์ ป้องบุญจันทร์ เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน<br />ปกป้อง เลาวัณย์ศิริ นักกิจกรรมทางสิทธิมนุษยชน <br />ชัยธวัช ตุลาฑล นักกิจกรรมทางสังคม <br />เก่งกิจ กิติเรียงลาภ นักกิจกรรมทางสังคม <br />กานต์ ยืนยง นักกิจกรรมทางสังคม <br />พิภพ อุดมอิทธิพงศ์ นักแปลอิสระ <br />พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ โครงการเข้าถึงความยุติธรรมและการคุ้มครองทางกฎหมาย มูลนิธิผสานวัฒนธรรม<br />ประดิษฐา ปริยแก้วฟ้า เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน<br />จารุวัฒน์ เกยูรวรรณ โครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย <br />พวงชมพู รามเมือง มูลนิธิกองทุนไทย <br />อับดุลเลาะห์ หะยีอาบู คณะทำงานด้านสิทธิมนุษยชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้<br />เยาวลักษ์ อนุพันธุ์ ทนายความ สำนักงานกฎหมายสิทธิชน<br />พิชิต พิทักษ์ กลุ่มสร้างสรรค์ชืวิตและธรรมชาติ อีสาน<br />พิษณุ ไชยมงคล สำนักเรียนรู้เพื่อประชาธิปไตยท้องถิ่น (สปท.)<br />นายประสาท ศรีเกิด สถาบันเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตย <br />นายอาณัติ สุทธิเสมอ ชมรมส่งเสริมการเรียนรู้ ภาคเหนือตอนล่าง<br />นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ YPD/ตัวแทนจากองค์กรนักศึกษา ม.รังสิต<br />ชาญณรงค์ วงค์วิชัย นักกิจกรรมรณรงค์ทางสังคมด้านเอชไอวี/เอดส์<br />ว่าที่ ร.อ.ภาดร ผลาพิบูลย์ สมาคมรัฐธรรมนูญเพื่อประชาธิปไตย<br />นางกสิณา สริจันทร์ สถาบันอิสานภิวัตน์<br />ขวัญรวี วังอุดม นักศึกษาปริญญาโท คณะสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา สถาบันสังคมศึกษา <br /> ประเทศเนเธอร์แลนด์ <br />ชล บุนนาค นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยอีราสมุส รอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์<br />เทวฤทธิ์ มณีฉาย นักศึกษาปริญญาโท คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ <br />เอกรินทร์ ต่วนศิริ นักศึกษาปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย <br />อุบลพรรณ กระจ่างโพธิ์ นักศึกษาปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย<br />อดิศร เกิดมงคล นักศึกษาปริญญาโท คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />อุเชนทร์ เชียงเสน นักศึกษาปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />ปฤณ เทพนรินทร์ นักศึกษาปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />อานนท์ อุณหะสูต นักศึกษาปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />อานนท์ ชวาลาวัณย์ นักศึกษาปริญญาโท Jawaharlal Nehru University New Delhi<br />Timo Ojanen นักศึกษาระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ<br />กมลชนก สุขใส อดีตนักศึกษาปริญญาตรี คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />ไชยรัตน์ ชินบุตร นักศึกษา คณะ รัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง<br />สิริลักษณ์ ศรีประสิทธิ์ นักศึกษาโรงเรียนแม่น้ำโขง Mekong School-EarthRights International<br />เยาวลักษ์ อนุพันธุ์ ทนายความ สำนักงานกฎหมายสิทธิชน<br />อนุชา มิตรสุวรรณ อิสรชนผู้รักความเป็นธรรม/เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน<br />สุภาภรณ์ มาลัยลอย ประชาชนผู้รักความเป็นธรรมและสิ่งแวดล้อม/เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน<br />ภาวิณี ชุมศรี เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน<br />ปรีดา นาคผิว เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน<br />ศิริภาส ยมจินดา ประชาชน <br />วิทยา อาภรณ์<br />น.ส.สุรีรัตน์ นนทโชติ โครงข่ายภาคประชาสังคมนนทบุรี<br />นางสายสม โกมลเสวิน โครงข่ายภาคประชาสังคมนนทบุรี<br />น.ส.ปาณิศา ขวัญเมือง โครงข่ายภาคประชาสังคมนนทบุรี<br />นางสมจิตร์ รามนันทน์ โครงข่ายภาคประชาสังคมนนทบุรี<br />นายสมศักดิ์ เจริญศรี โครงข่ายภาคประชาสังคมนนทบุรี <br />นายไพบูลย์ บุณรอด โครงข่ายภาคประชาสังคมนนทบุรี <br />นายสมศักดิ์ เกศชนา โครงข่ายภาคประชาสังคมนนทบุรี<br />ครรชิต พัฒนโภคะ องค์กรเลี้ยวซ้าย<br />พัชณีย์ คำหนัก องค์กรเลี้ยวซ้าย<br />ยุพิน อิ่มดำ องค์กรเลี้ยวซ้าย<br />สมาภรณ์ แก้วเกลี้ยง สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />คมลักษณ์ ไชยยะ สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />ทัตธนนันต์ นวลมณี สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />รสา หิรัญฤทธิ์ สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />กมล ศุภวงศ์ สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />บุญธิดา อาจารยางกูร สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />ชัยนรินทร์ กุหลาบอ่ำ สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />อุษากร เหมือนประยูร สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />สุจีรา เพ็งญา สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />ไชยวัฒน์ ตระการรัตน์สันติ สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />สาธิต เลิศโชติรัตน์ สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />กีรประวัติ คล่องวัชรชัย สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />ชวลีย์ รัตนววิไลสกุล สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />เขมนิจ เสนาจักร สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />นรสิงค์ ศรีวิโรจน์ สมัชชาสังคมก้าวหน้า<br />กวิน ชุติมา นักกิจกรรม องค์กรพัฒนาเอกชน<br />เขมนิจ เสนาจักร ประชาชน<br />บุหงา เสนาจักร ประชาชน<br />ปรินดา วานิชสันต์ ประชาชน<br />ชวลีย์ รัตนวิไลสกุล ประชาชน<br />ณัฐรัช ฐาปโนสถ มูลนิธิกระจกเงา<br />เอกลักษณ์ หลุ่มชมแข มูลนิธิกระจกเงา<br />อรรณพ นิพิทเมธาวี Webmaster ThaiNGO.org<br />ปฐมพร ศรีมันตะ ประชาชนและนักกิจกรรมธรรมดา<br />โชติศักดิ์ อ่อนสูง กลุ่มประกายไฟ<br />วิทยากร บุญเรือง ประชาชน<br />ใจ อึ๊งภากรณ์<br />ว่าที่ ร.อ.ภาดร ผลาพิบูลย์<br />นางกสิณา สริจันทร์<br />นายสุรพล ปัญญาวชิระ<br />ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล<br />จิรฐา ขอสูงเนิน<br />ประสงค์ สุวรรณโฉม<br />นิษฐกานต์ บุญศาสตร์<br />อรรคพล สาตุ้ม ศิลปินอิสระ<br />ประดิษฐ์ ดาวมณี ประชาชน<br />พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ ประชาชน<br />บัณฑิต เอื้อวัฒนานุกูล ประชาชน<br />อัฐธาดา ชมสุวรรณ แรงงานไทยในต่างแดน<br />น.ส. ชญานี ขุนกัน<br />วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา ร้านหนัง(สือ)๒๕๒๑<br />ภูมิวัฒน์ นุกิจ นักธุรกิจเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม<br />นครินทร์ วิศิษฎ์สิน<br />ธนกร มาณะวิท ประชาชน<br />พริสร์ สมุทรสาร<br />ฉันทนา วินิจจะกูล นักทำหนังสืออิสระ<br />ปรานม สมวงศ์ ประชาชน<br />ณภัทร สาเศียร ประชาชน<br />กานต์ ทัศนภักดิ์ ประชาชน<br />วุฒิไกร กลางทอง<br />ชาญณรงค์ วงค์วิชัย นักกิจกรรมรณรงค์ทางสังคมด้านเอชไอวี/เอดส์<br />Numnual Yapparat<br />นันทนีย์ เจษฎาชัยยุทธ์<br />ภัทชา ด้วงกลัด<br />ธนาวิ โชติประดิษฐ ประชาชน<br />ทิวสน สีอุ่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />ศุกาญจน์ตา สุขไผ่ตา คนงานในโรงงานทอผ้าย่านรังสิตปทุมธานี ประเทศสยาม<br />ทินกร ดาราสูรย์ ประชาชน<br />พิเชฐ ยิ่งเกียรติคุณ Thai Netizen Network<br />ปารัชนันท์ ภาวัตโภควินท์ ประชาชน<br />ประกีรติ สัตสุต ประชาชน <br />สมิทธ์ ถนอมศาสนะ ประชาชน<br />มินตา ภณปฤณ ประชาชน<br />อาณัติ สุทธิเสมอ ประชาชน<br />ชาตรี สมนึก นักศึกษาปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />ประกาศ เรืองดิษฐ์ ศูนย์เผยแพร่และส่งเสริมงานพัฒนา (ผสพ.)<br />สคฤทธิ์ จันทร์แก้ว นักกิจกรรมรณรงค์ทางสังคมด้านการเมืองสิทธิมนุษยชน และ ศิลปินอิสระ<br />วาสิฎฐี บุญรัศมี ประชาชน<br />ชัชชล อัจนากิตติ ประชาชน<br />ศิโรฒน์ รัตนาภรณ์ นักศึกษาและนักเขียนบทความพุทธศาสนามหายานแนวมนุษยนิยม<br />ศรวุฒิ ปิงคลาศัย นักศึกษาปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />โสฬสสา มีสมปลื้ม นศ.ปริญญาโท สตรีศึกษา มธ.<br />Pairat Pannara<br />จาพิกรณ์ เผือกโสภา นิสิตปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย<br />ปรัชญา สุรกำจรโรจน์ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง <br />ปาลิดา ประการะโพธิ์ นักเรียน<br />กัปตัน จึงธีรพานิช นิสิตปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย<br />มินตา ภณปฤณ ประชาชนbus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-61897453918617979782009-09-11T20:51:00.000-07:002009-09-11T20:53:00.542-07:006P1 เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย<object width="320" height="265"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/mzY2RbRLVc4&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/mzY2RbRLVc4&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="320" height="265"></embed></object>bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-20118214612682395282009-09-07T23:09:00.000-07:002009-09-08T00:02:51.179-07:00Download WMV ประกายไฟเสวนา ตอน “ขบวนการนักศึกษา : ประชาธิปไตย คุณคือใคร ก่อนรัฐประหารซ้ำ”<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjTLJ6ucMwuVJKAz4mJ9hKsJybhvKUUfELddM0EqbUg2cWpYdTxvBwFqialJyCVCfruywynFMWr4pQNmvbToRMAYu48vgBi2ZSOmq_ZTVvIjz6UBuSsSib9-M0L2cmoiVIG5HEDXSrsZ3XA/s1600-h/10226_113365673077_670498077_2065330_6878027_n.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5378977692626714722" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 240px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjTLJ6ucMwuVJKAz4mJ9hKsJybhvKUUfELddM0EqbUg2cWpYdTxvBwFqialJyCVCfruywynFMWr4pQNmvbToRMAYu48vgBi2ZSOmq_ZTVvIjz6UBuSsSib9-M0L2cmoiVIG5HEDXSrsZ3XA/s320/10226_113365673077_670498077_2065330_6878027_n.jpg" border="0" /></a><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiulQhmYJl8kmWiIN4xXA1xe9imGUIXfxctyOtP53pmTfCkpJ2coxuYu0C7qCRB_x-f0kNGWmxhH011h9ce8v2WWjbLFfjmBFUFBh4IqW5t2tXqgTrPryYhiPKFvCvkGbbiyIQsW0RMwYYh/s1600-h/10226_113363518077_670498077_2065313_3490966_n.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5378977700615831554" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiulQhmYJl8kmWiIN4xXA1xe9imGUIXfxctyOtP53pmTfCkpJ2coxuYu0C7qCRB_x-f0kNGWmxhH011h9ce8v2WWjbLFfjmBFUFBh4IqW5t2tXqgTrPryYhiPKFvCvkGbbiyIQsW0RMwYYh/s320/10226_113363518077_670498077_2065313_3490966_n.jpg" border="0" /></a><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjErSTULIzK6q_5KtbnABGRwKIEznyzBMNwfzV9vyZjdoF5Y5MVigqkWNp5p6XnBZG3gjiZ9hlGPwOgsU8mWEux6PekPes6KNt8uPJp8zNLI6i9_KR40fsig_AsJmh7mtVhcuR0m2UBSC8y/s1600-h/10226_113370598077_670498077_2065380_1022987_n.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5378977709889591970" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjErSTULIzK6q_5KtbnABGRwKIEznyzBMNwfzV9vyZjdoF5Y5MVigqkWNp5p6XnBZG3gjiZ9hlGPwOgsU8mWEux6PekPes6KNt8uPJp8zNLI6i9_KR40fsig_AsJmh7mtVhcuR0m2UBSC8y/s320/10226_113370598077_670498077_2065380_1022987_n.jpg" border="0" /></a><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgjLOoXw4UOwAeMswIGZBtN1_EfVGklJrWKr5fXPMO8iO7vfB4u2L3-ID1ee-yAB4Bvl0-tR9zzWfBYM6snsFhAe6cVx9k_FSKGXjTSnr67sQuL7uSZ1DOvi7lv5m9S2XBi-BseBPknHYBT/s1600-h/10226_113370603077_670498077_2065381_6513834_n.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5378977716740278194" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgjLOoXw4UOwAeMswIGZBtN1_EfVGklJrWKr5fXPMO8iO7vfB4u2L3-ID1ee-yAB4Bvl0-tR9zzWfBYM6snsFhAe6cVx9k_FSKGXjTSnr67sQuL7uSZ1DOvi7lv5m9S2XBi-BseBPknHYBT/s320/10226_113370603077_670498077_2065381_6513834_n.jpg" border="0" /></a><br /><br />ตัวอย่าง Clip งานเสวนานั้น<br /><br /><p align="center"><embed src="http://www.youtube.com/v/NNiq1X6pS9Y&hl=" fs="1&color1=" color2="0xcd311b" width="320" height="265" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></embed></p><br /><br /><br /><br />เสวนาโต๊ะกลม<br /><br />หัวข้อ ขบวนการนักศึกษา: ประชาธิปไตย คุณคือใคร ก่อนรัฐประหารซ้ำ<br /><br />14.00 – 17.00 น. วันเสาร์ ที่ 5 กันยายน 2552<br /><br />@ ห้องอ่านหนังสือชั้นใต้ดิน อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา<br /><br /><a href="http://baygon2.no-ip.org/savefiles/090905/14-090905-01.WMV">WMV</a> ช่วง1<br /><a href="http://baygon2.no-ip.org/savefiles/090905/14-090905-02.WMV">WMV</a> ช่วง2<br /><a href="http://baygon2.no-ip.org/savefiles/090905/14-090905-03.WMV">WMV</a> ช่วง3<br /><a href="http://baygon2.no-ip.org/savefiles/090905/14-090905-04.WMV">WMV</a> ช่วง4<br /><br />กิจกรรม “ช็อปแอนด์แชร์” แบ่งกันใช้ แบ่งกันคิด แบ่งกันฟัง จากอดีต จนถึงปัจจุบัน เหตุการณ์ 14 ตุลานับเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของการเคลื่อนไหวภาคประชาชนโดยเฉพาะหนุ่ม-สาว นิสิต นักศึกษา ที่มีพลังในการขับเคลื่อนสังคม อย่างสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตย สิทธิ เสรีภาพ จิตอาสา เพื่อให้สังคมมีความก้าวหน้าและเป็นการยกระดับทางจิตใจ กิจกรรมนิสิตนักศึกษา ในปัจจุบัน มีการดำเนินให้หลายรูปแบบ แต่ล้วนเพื่อการสรรค์สร้างสิ่งที่ดีให้กับสังคมทั้งนั้น แต่สิ่งที่ขาดจริง ๆ ก็คือพิ้นที่ในการแสดงออกทางกิจกรรมอย่างจริงจัง ในฐานะอนุสรณ์สถาน 14 ตุลาเป็นสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ในการขับเคลื่อนทางสังคมของคนหนุ่มสาว มาแต่อดีต จึงเห็นควรเปิดพื้นที่เพื่อให้ เยาวชน ได้เข้ามาใช้พื้นที่ของอนุสรณ์สถาน ในการจัดกิจกรรม ทางสังคม ในประเด็นที่สร้างสรรค์ และเป็นการผนึกกำลังของคนรุ่นใหม่เพื่อรวมไว้ที่นี้<br /><br />แนวทางในอนาคต<br />คาดว่าจะจัดเดือนละ 1 ครั้ง ทุกวันเสาร์แรกของเดือน<br /><br />กำหนดการจัดกิจกรรม<br />จัดในวันเสาร์ที่ 5 กันยายน 2552 เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป<br />ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน<br /><br />13.00 น. เริ่มงานกิจกรรม “ช็อปแอนด์แชร์” แบ่งกันใช้ แบ่งกันคิด แบ่งกันฟัง พบกับ การออกร้าน ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา<br /><br />14.00 น. กิจกรรมประกายไฟเสวนา ตอน “ขบวนการนักศึกษา : ประชาธิปไตย คุณคือใคร ก่อนรัฐประหารซ้ำ” ณ ห้องประชุมมูลนิธิ 14 ตุลา<br /><br />17.00 น. กิจกรรมแสดงดนตรี วงสลึง มหิดล วงพรานล่าเนื้อ ศิลปากร วงลู่ลม พระนครเหนือ วงสมุนไพร พระนครเหนือ วงข้าวเหนียวปั้น รามคำแหง ณ เวทีอัฒจรรย์<br /><br />... ในขณะที่บางคนบอกเราว่าประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่นำเข้ามาจากตะวันตกดังนั้นจึงไม่เหมาะกับสังคมไทย (แต่ก็ไม่เคยบอกว่าอะไรเหมาะกับสังคมไทยสังคมไทย) แต่ขณะเดียวกันกลับมีบางคนที่บอกเราว่าสังคมไทยเป็นประชาธิปไตยมานานแล้วตั้งแต่สมัยสุโขทัยและคัมภีร์พระธรรมศาสตร์คือรัฐธรรมนูญฉบับแรก …<br /><br />… ในขณะที่บางคนบอกเราว่าสังคมไทยในปัจจุบันยังไม่พร้อมสำหรับประชาธิปไตย แต่ก็ไม่ได้บอกเราว่าอีกนานแค่ไหนจึงจะพร้อม และยิ่งไม่ได้บอกเราว่าระหว่างนี้ (ที่ยังไม่พร้อมจะเป็นประชาธิปไตย) สังคมไทยควรใช้ระบอบอะไร …<br /><br />และอีกเช่นกัน 19 กันยาปีนี้ก็จะครบรอบ 3 ปีของการรัฐประหารที่เกิดขึ้นเมื่อ 19 ก.ย. 2549 โดยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาก็มีกลิ่นอายของการรัฐประหารมาโดยตลอด ไม่เว้นแม้กระ<br />ทั้ง ณ เวลานี้ เวลาที่ใกล้จะครบรอบ 3 ขวบ ของการรัฐประหารในครั้งนั้น ก็ยังมิวานที่จะได้กลิ่นตลบอบอวนไปด้วยการรัฐประหารซ้ำ<br /><br />ในขณะที่ขบวนการนักศึกษาซึ่งถูกมองว่าเป็นกำลังสำคัญในการเรียกร้องประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริงนั้นในอดีต ณ ปัจจุบันนี้พวกเขาเหล่านั้นมองประชาธิปไตยหน้าตาเป็นอย่างไร<br /><br />ด้วยเหตุนี้ทางกลุ่มประกายไฟ ร่วมกับนักศึกษาและนักกิจกรรมจำนวนหนึ่ง จึงได้ริเริ่มจัดกิจกรรมในรูปแบบของการเสวนาขึ้น เพื่อสร้างพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ มาพูดคุย แลกเปลี่ยน มุมมอง ทัศนคติต่อการเมืองและประชาธิปไตยระหว่างกัน จึงเกิดเป็นกิจกรรมเสวนาโต๊ะกลมแบบชิลๆ ในประเด็นที่ไม่ชิลๆ ในชื่อ ประกายไฟเสวนา ตอน “ขบวนการนักศึกษา : ประชาธิปไตย คุณคือใคร ก่อนรัฐประหารซ้ำ”<br /><br />วัตถุประสงค์<br />1. เพื่อให้เกิดการนำเสนอมุมมอง ทัศนคติต่อคำว่า “ประชาธิปไตย” ของแต่ละกลุ่ม<br />2. เพื่อให้เกิดการพูดคุย แลกเปลี่ยน มุมมอง ทัศนคติต่อการเมืองและประชาธิปไตยระหว่างกัน<br /><br />กิจกรรม<br /><br />13.00 – 14.00 น. ลงทะเบียน พุดคุยกันตามอัธยาศรัย พร้อมชมการออกร้านบริเวณโถงชั้นล่างอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา<br /><br />14.00 – 17.00 น เสวนาโต๊ะกลม หัวข้อ “ขบวนการนักศึกษา : ประชาธิปไตย คุณคือใคร ก่อนรัฐประหารซ้ำ”<br /><br />นำเสวนาโดย<br />ตัวแทนจากสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)<br />ตัวแทนจากศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD)<br />ตัวแทนจากกลุ่มสังคมนิยมประชาธิปไตย ธรรมศาสตร์<br />ตัวแทนจากกลุ่มกิจกรรมเพื่อสังคม ม.รามคำแหง<br />ตัวแทนกลุ่มประกายไฟ<br />ตัวแทนจากกลุ่มนักศึกษาเสรีปัญญาชน<br />ตัวแทนจากกลุ่ม Food Not Boom<br />ตัวแทนกลุ่มเลี้ยวซ้าย<br /><br />ดำเนินรายการโดย<br />ดร.เก่งกิจ กิติเรียงลาภbus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-36312041354104043452009-09-02T03:36:00.000-07:002009-09-02T03:40:32.527-07:00มูลนิธิ 14 ตุลา ขอเชิญนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน คนหนุ่มสาว เข้าร่วมงาน<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEinLrdA-XOlanYFirVJuiO7cI_QzskDYxXeJyBMyiHkmOvKW4IO174EC88lCMHQKGsCswxLwgN1Dr1FaCMNWxeDdfYhr9Wgk21P45aLQXaIkfPknumAH0WL7KTrba0yRP8lQhrEIbD2sS5c/s1600-h/14tula.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 320px; height: 252px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEinLrdA-XOlanYFirVJuiO7cI_QzskDYxXeJyBMyiHkmOvKW4IO174EC88lCMHQKGsCswxLwgN1Dr1FaCMNWxeDdfYhr9Wgk21P45aLQXaIkfPknumAH0WL7KTrba0yRP8lQhrEIbD2sS5c/s320/14tula.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5376817492506330466" /></a><br /><br /><br /> <br />กิจกรรม “ช็อปแอนด์แชร์” แบ่งกันใช้ แบ่งกันคิด แบ่งกันฟัง <br /><br /><br /> จากอดีต จนถึงปัจจุบัน เหตุการณ์ 14 ตุลานับเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของการเคลื่อนไหวภาคประชาชนโดยเฉพาะหนุ่ม-สาว นิสิต นักศึกษา ที่มีพลังในการขับเคลื่อนสังคม อย่างสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตย สิทธิ เสรีภาพ จิตอาสา เพื่อให้สังคมมีความก้าวหน้าและเป็นการยกระดับทางจิตใจ กิจกรรมนิสิตนักศึกษา ในปัจจุบัน มีการดำเนินให้หลายรูปแบบ แต่ล้วนเพื่อการสรรค์สร้างสิ่งที่ดีให้กับสังคมทั้งนั้น แต่สิ่งที่ขาดจริง ๆ ก็คือพิ้นที่ในการแสดงออกทางกิจกรรมอย่างจริงจัง ในฐานะอนุสรณ์สถาน 14 ตุลาเป็นสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ในการขับเคลื่อนทางสังคมของคนหนุ่มสาว มาแต่อดีต จึงเห็นควรเปิดพื้นที่เพื่อให้ เยาวชน ได้เข้ามาใช้พื้นที่ของอนุสรณ์สถาน ในการจัดกิจกรรม ทางสังคม ในประเด็นที่สร้างสรรค์ และเป็นการผนึกกำลังของคนรุ่นใหม่เพื่อรวมไว้ที่นี้ <br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />วัตถุประสงค์ <br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />1. เพื่อเปิดพื้นที่ให้เยาวชน นิสิต นักศึกษา องค์กรเยาวชน องค์การนิสิต นักศึกษา ได้เข้ามาใช้พื้นที่เพื่อแสดงออกและจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ หารายได้เพื่อนำไปทำประโยชน์เพื่อสังคมต่อไป <br /><br /><br /><br />2. เพื่อให้เกิดการพูดคุย แลกเปลี่ยน มุมมอง ทัศนคติต่อการเมืองและประชาธิปไตยระหว่างกัน <br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /> -- กิจกรรมดนตรี <br /><br /><br /><br /> กิจกรรมดนตรีเป็นกิจกรรมที่วัยรุ่นค่อนข้างให้ความสนใจเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน และการบริโภคของคนยุคใหม่ค่อนข้างเปิดกว้างมากขึ้น ดังนั้นการจัดกิจกรรมดนตรี จึงเป็นช่องทางนึงที่สามารถเผยแพร่ข้อมูลเรื่องประชาธิปไตยให้คนรุ่นใหม่ได้รับรู้และเข้าใจ โดยผ่านกิจกรรมที่เค้าให้ความสนใจ การเลือกวงดนตรีนั้นอาจจะเลือกให้สอดคล้องกับความต้องการของคนรุ่นใหม่แต่ไม่ละเลยอุดมการณ์ประชาธิปไตยและต้องเปิดกว้างให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ <br /><br /><br />-- กิจกรรมออกร้าน <br /><br /><br /><br /> กิจกรรมออกร้านเป็นการเปิดพื้นที่ให้กลุ่มกิจกรรมที่ทำประโยชน์เพื่อสังคมได้เข้ามาใช้พื้นที่ในงานเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะเป็นการบริจาค หรือการขายของ ซึ่งมีเกณฑ์การคัดเลือกต้องเป็น กลุ่มเยาวชนที่ทำงานเพื่อสังคมและนำรายได้ไปเพื่อการทำประโยชน์เพื่อสังคมต่อไปเท่านั้น<br /><br /><br />-- กิจกรรมเสวนา <br /><br /><br /><br /> กิจกรรมเสนาเป็นการพบปะพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างบุคคล กลุ่มกิจกรรม โดยการจัด เราจะเลือกเอา <br /><br /><br /><br />ผู้เข้าร่วมเสวนาที่เป็นบุคคลที่น่าสนใจของคนรุ่นใหม่ มาพูดคุย แลกเปลี่ยน มุมมอง ทัศนคติต่อการเมืองและประชาธิปไตย เพื่อช่วยกันคิดในประเด็นเรื่องประชาธิปไตย <br /><br /><br /><br /><br /> <br /><br /><br />กำหนดการจัดกิจกรรม <br /><br /><br /><br />จัดในวันเสาร์ที่ 5 กันยายน 2552 เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป <br /><br />ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน<br /><br /><br />13.00 น. เริ่มงานกิจกรรม “ช็อปแอนด์แชร์” แบ่งกันใช้ แบ่งกันคิด แบ่งกันฟัง <br /><br /> พบกับ การออกร้าน ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา<br /><br /><br />14.00 – 17.00 น ประกายไฟเสวนา “<br /> ขบวนการนักศึกษา : ประชาธิปไตย คุณคือใคร ก่อนรัฐประหารซ้ำ”<br /><br /><br /> นำเสวนาโดย <br /> ตัวแทนจากสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) <br /> ตัวแทนจาก ศูนย์ประสานงานนักเรียน นิสิต นักศึกษา (ศนศ.) <br /> ตัวแทนจากองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) <br /> ตัวแทนจากองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง <br /> ตัวแทนจากศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD) <br /> ตัวแทนจากกลุ่มสังคมนิยมประชาธิปไตย ธรรมศาสตร์<br /> ตัวแทนจากกลุ่มประชาธิปไตยไม่ใช่แค่กิ๊ก (กปก.) <br /> ตัวแทนจากกลุ่มกิจกรรมเพื่อสังคม ม.รามคำแหง<br /> ตัวแทนกลุ่มประกายไฟ<br /> ตัวแทนจากกลุ่มนักศึกษาเสรีปัญญาชน<br /> ตัวแทนจากเครือข่ายเยาวชนกู้ชาติ (Young PAD.)<br /> ตัวแทนจากกลุ่มแรงคิด<br /> ตัวแทนกลุ่มเลี้ยวซ้าย<br /> ตัวแทนกลุ่ม Food not Boom<br /><br /> ดำเนินรายการโดย<br /> เก่งกิจ กิติเรียงลาภ กลุ่มประกายไฟ<br /><br /><br />17.00 น. กิจกรรมแสดงดนตรี <br /><br /><br /><br /> วงสลึง มหิดล<br /> วงพรานล่าเนื้อ ศิลปากร<br /> วงลู่ลม พระนครเหนือ<br /> วงสมุนไพร พระนครเหนือ<br /> วงข้าวเหนียวปั้น รามคำแหง<br /> ณ เวทีอัฒจรรย์ <br /><br /><br />จัดโดย <br /><br /> มูลนิธิ 14 ตุลา <br /><br /><br />กลุ่มเป้าหมาย <br /><br /><br /><br /> เยาวชน วัยรุ่น และบุคคลทั่วไปที่สนใจ <br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ผลที่คาดว่าจะได้รับ<br />1. เกิดการสนใจในเรื่องประชาธิปไตย สิทธิ เสรีภาพ ความเท่าเทียมกัน<br />2. ขยายวงการสืบทอดเจตนารมย์ไปสู่เยาวชน คนรุ่นใหม่<br /><br />3. อนุสรณ์สถานกลายเป็นจุดศูนย์กลางการทำกิจกรรมของเยาวชน โดยไม่ปิดกัน <br /><br /><br />สอบถามรายละเอียดที่ 02-622-1013-5bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-5945028393570584812009-08-26T11:34:00.000-07:002009-08-26T11:45:37.624-07:00สัมภาษณ์: ปาลิดา ประการะโพธิ์ “โปรดอย่าพูดแบบเหมารวม เด็กมัธยมก็สนใจปัญหาสังคม”คลื่นลูกใหม่ๆ ย่อมมาแทนที่คลื่นลูกเก่าเสมอ ในห้วงเวลาที่นักกิจกรรม-เอ็นจีโอรุ่นเก่าแก่ เริ่มหาที่ทางในช่วงบั้นปลาย ไม่ว่าจะเป็นการออกไปสิงตามพรรคการเมือง ออกไปเป็นที่ปรึกษาตามหน่วยงานองค์กรต่างๆ หรือเริ่มแคะกระปุกเงินเก็บออมไปกว้านซื้อหากระท่อมเล็กกระท่อมน้อยตามชนบทบรรยากาศเขียวๆ สร้างสวรรค์ในช่วงท้ายของชีวิต ส่วนรุ่นกลางๆ มาหน่อยก็กำลังเพลิดเพลินกับหน้าที่บริหารองค์กร เขียนโครงการขอทุน การออกแถลงการณ์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว และบินไปประชุมตามที่ต่างๆ
<br />
<br />วันนี้ประชาไทขอนำเสนอบทสัมภาษณ์ นักกิจกรรมรุ่นใหม่ เพื่อเป็นการหวนรำลึกไปถึงวันที่คนหนุ่มสาวเริ่มออกแสวงหาเส้นทางเพื่อการค้นพบคุณค่าของตัวเอง กลับไปในช่วงสมัยที่เริ่มหัดออกค่าย แบกเป้ โบกรถ ตามหาความฝัน
<br />“ปาลิดา ประการะโพธิ์” เด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เด็กมัธยมที่กล้าประกาศกับผู้ใหญ่หรือนักกิจกรรมรุ่นเก๋าๆ ทั้งหลายว่า “โปรดอย่าพูดแบบเหมารวม เด็กมัธยมก็สนใจปัญหาสังคม”
<br />
<br />
<br />
<br /><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5374343630134904994" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 298px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjGc0PSk4iLvLrNdJKypP1AE4ofJSYe0BaCIs11VeRe2Z56QemTOR0Iq6_HvezyixpZi47_GUT_WeL5hwBPghz8x5zFs_1oXm2gUc0HaKAmNSpIanfJfu4xvcAuRvstB9Uw9t0y9WBHBQ8t/s320/palida.jpg" border="0" /> <p></p>
<br /><div align="center">“ปาลิดา ประการะโพธิ์”
<br />ขณะทำกิจกรรมครบรอบ 21 ปีเหตุการณ์ 8888 เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 52 ที่ผ่านมา(ด้านหลังเป็นจิตรา คชเดช ปิดปากคาดหัวเราก็แอบรู้เพราะเราอยู่ในเหตุการณ์)</div><p>
<br />
<br />เริ่มต้นจากการอ่าน
<br />
<br />ปาลิดา เกิดมาในครอบครัวที่เธอเรียกว่าเป็น “ครอบครัวธรรมดาๆ” ซึ่งหัดให้เธอเริ่มรู้จักรับผิดชอบต่อตนเองต้องแต่ช่วงประถม และในบางครั้งอาจจะมีอารมณ์ เศร้า เหงารัก ตามประสาเด็กทั่วไป แต่สิ่งที่เธอใช้บำบัดอารมณ์ในวัยเยาว์ของเธอนั่นก็คือ ‘การอ่าน’
<br />“เกิดในครอบครัวธรรมดา เป็นลูกสาวคนเดียว พ่อแม่สอนให้รับผิดชอบตัวเองตั้งแต่เด็กๆ เพราะไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกัน ประมาณประถมต้นก็หัดรีดผ้าเองแล้ว พอโตหน่อยประถมปลายก็พ่อแม่ก็ส่งเข้าโรงเรียนประจำ ทำให้ยิ่งต้องช่วยเหลือตัวเองให้เป็นเข้าไปกันใหญ่ พอห่างจากพ่อแม่ก็มีเหงาบ้างอะไรบ้าง เลยต้องหาสิ่งจรรโลงใจหน่อย คือ หนังสือ เป็นคนชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็กๆ”
<br />
<br />“ไม่ว่าจะหนังสืออะไรได้หมด ตั้งแต่การ์ตูนยันสารคดีหนักๆ แต่อย่างหลังนี่ตอนเด็กๆ อ่านเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างก็พยายามอ่าน สนุกดี อ่านหนังสือมาเรื่อยจนกระทั่ง ป.4 เริ่มอ่านหนังสือที่ไม่มีภาพ เน้นหนาๆ อย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ นี่อ่านสี่เล่มรวดเลย แล้วก็นวนิยายแบบคลาสสิคสุดๆอย่าง สี่แผ่นอิน หรือรัตนโกสินทร์ ฯลฯ ช่วงนั้นบ้ามากเอาไปอ่านในเวลาเรียนจนครูว่าแต่ก็ไม่สนใจเท่าไหร่”
<br />
<br />“ดำเนินชีวิตมาเรื่อยๆ แบบเด็กปกติทั่วไป ไม่รับไม่รู้อะไรกับโลกภายนอกเขาเท่าไหร่ เขาบอกให้เรียนเราก็เรียน เขาบอกให้สอบเราก็สอบไป บ้าเรียนกวดวิชา บ้าทีวี กลับมาบ้านนี่ต้องเปิดทีวีก่อนเลย จนกระมาถึงประมาณ ม.4 เริ่มเห็นความจริงของโลกจากการอ่านหนังสือหลายๆ เล่มแล้วเราเริ่มคิดตามว่าทำไมสิ่งนั้นถึงเป็นแบบนี้ สิ่งนี้ถึงเป็นแบบนั้น สงสัยมาก พอดีได้คุยกับรุ่นพี่คนหนึ่งตอนนั้นเขาย้ายไปเรียนอยู่โรงเรียนเตรียมฯ เมื่อก่อนสนิทกันมากเพราะเคยอยู่ประจำหอเดียวกัน พี่คนนี้เขาสนใจการเมือง สนใจความเคลื่อนไหวรอบโลก แล้วก็มาแนะนำว่าลองอ่านอันนี้สิ ลองไปดูอันนั้นสิ ซึ่งก็จำไม่ได้ว่าพี่เขาแนะนำว่าอย่างไร แต่มันเป็นจุดหักเหของการเปลี่ยนมุมมองในการมองโลก ก่อนหน้านี้ชีวิตมีแต่บ้านกับโรงเรียน สองอย่างนี้กลืนกินชีวิตกว่า 80% หลังจากนั้นเราก็เริ่มหันกลับไปมองว่าเอ… ไอ้ที่เราทำไปเมื่อก่อนนั่นเราทำอะไร เราทำเพื่อใคร แล้วตอนนี้เรากำลังทำอะไรอยู่”
<br />
<br />หนังสือเล่มหนาอย่าง ‘ปุลากง’ ซึ่งเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาของพ่อเธอในสมัยที่ยังเรียนอยู่ กลายเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญเมื่อครั้งที่หยิบมาอ่าน และมันก็เป็นประตูให้เธอเริ่มก้าวเข้ามาเป็นนักกิจกรรมวัยเยาว์
<br />
<br />“การอ่านนี่มันทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปได้จริงๆ นะ ไปเจอหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า ‘ปุลากง’ เป็นหนังสือเก่ามากแล้ว หนังสือนี้ใช้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาของพ่อสมัยตอนเรียนหนังสือ เรื่องราวในนั้นมันจะเล่าเกี่ยวกับสามจังหวัดชายแดนใต้ เราเห็นว่ามันแปลกดี บางเรื่องไม่เคยรู้มาก่อน เลยตามอ่านหนังสือเกี่ยวกับมุสลิมทั้งหมด ไม่ว่าจะในตะวันออกกลาง วัฒนธรรมของชาวมุสลิม ข้อบังคับทางศาสนา รู้สึกว่าอารยธรรมของชาวมุสลิมนี่มีเสน่ห์ดึงดูดชวนให้น่าติดตามดี เลยความบ้าขึ้นมาอยากจะไปเรียนภาษาอาหรับ พออยากแล้วก็ไปหาที่เรียนเลย ไกลแค่ไหนก็จะไปให้ได้”
<br />
<br />“ตอนนั้นได้ที่เรียนที่ WAMY ( World Assembly of Muslim Youth) อยู่แถวๆ อ่อนนุช ไกลมากเลยนะจากหลักสี่เนี่ย แต่ก็ได้ไปเรียนจนได้ เรียนได้ไม่นานก็ต้องหยุด เพราะสู้ค่าเดินทางไม่ไหว พอเราได้เรียนอาหรับเรารู้สึกว่าเอ...ทำมีความสุขจัง เลยเกิดความกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะไปเจอของจริง พอดีรู้จักพี่คนหนึ่งเขาทำค่ายเกี่ยวกับเรียนรู้วิถีชาวบ้านที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ก็เลยตกลงไปกับเค้าด้วย พี่เขาเป็นกังวลใหญ่เลยว่ามีเด็กนี่ตามไปด้วยจะเป็นไรไหม เพราะมันเป็นค่ายของนักศึกษา ถ้าน้องเขาไปแล้วเกิดอันตรายขึ้นมาจะทำยังไง พี่เขาถามแล้วถามอีกว่าจะไปแน่เหรอ เราก็บอกว่าแน่ เพราะอยากไปมานานแล้ว”
<br />
<br />“แต่ที่ตอบตกลงไปนี่ยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่เลย กลัวเขาจะไม่ให้ไป แต่ก็ต้องตัดสินใจบอกเพราะกลัวเขาจะช็อค ถ้าวันหนึ่งลูกสาวหอบกระเป๋าออกไปข้างนอกสามวันเจ็ดวันโดยไม่บอกกล่าว บอกไปทีแรกหัวเด็กตีนขาดยังไงเขาก็ไม่ให้ไป เราก็ต่อต้านในใจ คิดว่าชีวิตกู กูลิขิตเองได้ จะไปซะอย่างใครจะทำไม พ่อแม่สอนให้เราจะทำอะไรก็คิดเอง ถามพ่อแม่พอเป็นธรรมเนียม ก็รู้ว่าเขาเป็นห่วงนะ แต่ทำไงได้ เรามันดื้อด้าน หลังๆ เขาก็เลยอยากไปไหนก็ไป ลงสามจังหวัดชายแดนนี่ถือเป็นกิจกรมแรกที่ได้ทำจริงๆ จัง ได้ไปลงพื้นที่เยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ไม่ดูวิถีชาวบ้านว่าเขาอยู่กันยังไง ไปไม่กี่วันนี่หลงเสน่ห์ชาวมลายูเข้าอย่างจัง รักมากพื้นที่นี้”
<br />
<br />ประสบการณ์ชายแดนใต้
<br />
<br />สิ่งที่ปาลิดาได้พบเห็นจากการลงพื้นที่ครั้งนั้น อาจจะเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่หลายคนไม่เคยสัมผัส และเธอได้รับประสบการณ์ชีวิตมากมาย
<br />“พื้นที่สีเขียวนี่แพร่วงกว้างมาก ไปตอนแรกนี่ตกใจ หลังๆ เริ่มชิน พอขบวนรถนักศึกษาลงไปนี่ต้อนรับอย่างดีเลย พี่แก (ทหาร) เล่นบล็อกเราทุกด่าน ถนนสายหนึ่งนี่มีด่านมากกว่าสิบด่านได้มั้งไม่ให้ไปบ้าง จะจัดรถทหารไปนำขบวนให้บ้าง แต่เราก็ปฏิเสธนะ ถ้าเขาไปด้วยชาวบ้านหวาดระแวงแน่ๆ ทหารก็กลัวว่าขบวนการจะมาทำอะไรเรา แต่เรามั่นใจว่าเรามาถูกทางแล้ว”
<br />
<br />“พอลงไปก็เห็นปัญหาหลายๆ อย่าง ปัญหาที่ครอบครัวส่วนใหญ่ประสบคือ ขาดผู้นำครอบครัว ขาดสามี ขาดที่พึ่ง เพราะเสียชีวิตไปกับเหตุการณ์ไม่สงบทั้งที่เกิดจากรัฐและผู้ก่อการร้าย บางครอบครัวได้รับคำสัญญาจากรัฐว่าจะให้เงินช่วยเหลือครอบครัวแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ หรือพอเกิดเรื่องอะไรก็ให้ไปฟ้องศาลเอาเอง แล้วลองคิดดูสิ ชาวบ้านก็จนอยู่แล้ว จะเอาเงินที่ไหนไปวิ่งเต้นจ้างทนายมาว่าความ ไหนจะค่าเดินทาง ค่านู่นค่านี่ เต็มไปหมด”
<br />
<br />“ในส่วนตัวมองว่าปัญหาใหญ่อีกอย่างหนึ่งที่น่าจะได้รับการแก้ไขจากรัฐคือปัญหาการไม่มีที่ทำกิน อย่างน่านน้ำทะเลปัตตานีเนี่ย พวกนายทุนเขาพากันไปจับจองกันหมด มีการปักปันเขตแดนด้วยนะ ชาวบ้านเลยหมดทางทำมาหาดิน ออกเรือไปไหนก็ไม่ได้ เพราะนายทุนเขาห้ามเขาเขตเขา นายทุนก็ฉลาดทำการฮั้วกับกำนันผู้ใหญ่บ้านเสร็จสรรพ หมดเลยที่ดินทำกิน แล้วยังมีการถมที่ตั้งโรงงานปลากระป๋องยื่นออกไปในทะเล ปล่อยน้ำเสียออกมาอีก ชาวบ้านเดือดร้อนเข้าไปอีกปัญหาของชาวบ้านมันไม่ได้รับการแก้ไข เพราะคนในระบบราชการ คนใหญ่คนโตมันไปทำเสียเอง ผลประโยชน์มันมหาศาลมันล่อตา คราวนี้ยังไงล่ะชาวบ้านจะเหลืออะไร ก็เจ๊งลูกเดียว”
<br />ปาลิดาเห็นว่าปัจจัยที่ทำให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่สงบ คือเรื่องของความอึมครึมตึงเครียด และนโยบายการใช้การทหารนำการเมือง
<br />
<br />“บรรยากาศมันอึมครึม ต่างฝ่ายต่างใช้ความรุนแรงเข้าหากัน ไม่มีใครรู้ว่าความรุนแรงและการประหัตประหารชีวิตกันในแต่ละวันมันมาจากเหตุผลและวัตถุประสงค์อะไร มันมีสมมติฐานหลายอย่างที่ใช้ในการอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกนักวิชาการหรือฝ่ายทหารก็จะบอกว่าหัวหอกของการก่อการร้ายคือพวก BRN-Coordinate ซึ่งพวกเขาต่างจินตนาการกันว่าเป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่ มีโครงสร้างชัดเจน และมีการสั่งงานเป็นขั้นเป็นตอน เป็นลำดับขั้นชัดเจน การที่ไปเอะอะเป็นตุเป็นตะเอาเองอย่างนั้นมันจะนำไปสู่การเข้าใจผิด การแก้ปัญหาเลยไม่ถูกที่ถูกทาง”
<br />
<br />“อีกอย่างคือการใช้การทหารนำการเมือง พื้นที่ที่ภาคใต้มีสถาพคล้ายเมืองที่เป็นอาณานิคมอยู่เต็มที ถึงแม้ว่าในอดีต สยามจะเคยบุกตีรัฐปัตตานีมาเป็นเมืองขึ้นก็ตาม แต่ในเมื่อมีการหลอมรวมกันเป็นชาติเดียวแล้ว ก็น่าจะหาวิธีปฏิบัติต่อกันให้ดีหน่อย เพราะความรุนแรงจากรัฐและจากขบวนการเองเป็นเหตุของความไม่สงบในปัจจุบัน”
<br />
<br />กิจกรรมที่ทำ
<br />
<br />หลังจากกลับมาจากจังหวัดชายแดนใต้ ปาลิดาก็ได้เริ่มทำกิจกรรมอย่างจริงจัง
<br />“พอกลับมากรุงเทพฯ ก็เริ่มเข้าไปทำกิจกรรมกับพี่ที่มหาวิทยาลัยที่เราสนิทเพิ่มมากขึ้น รู้จักคนเพิ่มมากขึ้น เลยไปเข้ากลุ่มทำกิจกรรมกับกลุ่มประกายไฟ กลุ่มที่ใช้แนวคิดแบบมาร์กวิเคราะห์สังคม ก็มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายในกลุ่มนั้น เช่น การจัดเสวนา การจัดกลุ่มศึกษากันเองภายในกลุ่มเพื่อเพิ่มพูนความรู้ แรกๆ ที่อ่านงานมาร์กนี่จะอ้วก เลี่ยน เอียน มากกับแนวคิด คิดว่ามาร์กคงไม่ใช่คำตอบของสังคมทั้งหมด แต่ก็สามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับสภาพบ้านเมืองและสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างไม่ติดขัด เช่น การเรียกร้องให้มีรัฐสวัสดิการในประเทศไทย การเรียกร้องสิทธิที่แรงงาน สิทธิของคนรากหญ้าทั่วไปควรจะได้รับ”
<br />
<br />“มันก็เกิดคำถามในใจอีกว่าสิ่งที่เราทำอยู่ในประกายไฟคือคำตอบสุดท้ายหรือ คำตอบคือ ‘ไม่’ แต่แนวทางในการทำงานส่วนหนึ่งของกลุ่มมันตรงกับทัศนคติของเราที่มีต่อโลก เช่น ไม่ชอบการเอารัดอาเปรียบ ไม่ชอบการกดขี่ แต่การอยู่กลุ่มประกายไฟนี่เพื่อการเรียนรู้งาน การเรียนรู้การทำงานร่วมกันกับสังคมที่นอกเหนือกว่าโรงเรียน มีความคิดที่โตขึ้นจากเด็กที่กะโหลกกะลาไปวัน รับรู้ปัญหาของสังคมมากขึ้น ตอบปัญหาที่เคยตั้งไว้กับโลกว่าทำไมสิ่งนั้นถึงเป็นอย่างนี้ สิ่งนี้ถึงเป็นอย่างนั้นได้บ้าง”
<br />
<br />“ได้มาทำงานกับอีกกลุ่มหนึ่ง คือ กลุ่ม Food Not Bombs กลุ่มนี้มีจุดเริ่มต้นจากสหรัฐอเมริกาแล้วกระจายไปยังประเทศอื่นๆทั่วโลก เป็นกลุ่มที่ต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะต่อมนุษย์ ต่อสัตว์ ต่อสังคม อันที่จริงกลุ่มนี้พี่เขาเพิ่งนำเข้ามาในไทยเมื่อหนึ่งถึงสองปีก่อน ทำกิจกรรมรณรงค์อยู่พักหนึ่ง ก็หายหน้าหายตาไปทำงานอื่น”
<br />
<br />“พอเราเข้ามาเขาก็ทำการ re-branding ใหม่ เริ่มต้นใหม่หมด เรียกประชุมคิดประเด็นรณรงค์ใหม่ แนวทางการทำกิจกรรมใหม่ ให้มันน่าสนใจ น่าดึงดูดพอที่จะดึงคนรุ่นใหม่มาสนใจประเด็นทางสังคมมากขึ้น มันเป็นงานที่ยากมาก ที่จะทำยังไงให้มองดูแล้วกิจกรรมที่ปล่อยออกมาดูไม่เครียด แต่ชื่อกลุ่มเราก็ดูแปลกแหวกแนวอยู่แล้ว ประเด็นที่เราจะเล่นคือการใช้งบทหารที่ฟุ่มเฟือย เพราะแทนที่จะเอาเงินไปอุดหนุนงบทหารซะมากมาย เงินเหล่านั้นสามารถนำไปพัฒนาสวัสดิการเพื่อประชาชนที่ยากจนได้อีกมาก”
<br />
<br />“แล้วเรายังมองว่าความอดอยากหิวโหยเป็นความรุนแรงอีกแบบหนึ่งด้วย เพราะมันสามารถส่งผลเป็นลูกโซ่ได้อีกหลายๆ เหตุการณ์ อย่างการลักทรัพย์ การทำร้ายร่างกาย ฯลฯ เรามีการจัดกิจกรรมขึ้นมาหลายๆ กิจกรรม เช่น การแจกอาหารมังสวิรัติต่อคนที่อดอยาก การพาสมาชิกไปสัมผัสวิถีชีวิตของแรงงานที่น้อยคนนักจะรู้ว่าเขามีความเป็นอยู่ยังไง ผลตอบรับที่ได้จากเยาวชนยังได้รับความสนใจที่ยังน้อยอยู่ หากถามว่าแนวทางของกลุ่มนี้ถูกใจไหม ก็คงต้องตอบว่าไม่ แต่ก็ยังอยากทำต่อไป เพราะสังคมไทยยังขาดการเรียกร้องต่อเรื่องนี้อยู่ และยังคงต้องหาแนวทางของตัวเองต่อไป”
<br />
<br />ปาลิดาแสดงความเห็นต่อการวิจารณ์ว่าการทำงานของ Food not Bombs ว่าเป็นแนวสังคมสงเคราะห์มากเกินไป เธอคิดเห็นว่าการแจกอาหารไม่ใช่เป้าหมายหลักของกลุ่ม
<br />
<br />“การแจกอาหารไม่ใช่เป้าหมายหลัก มันคือกิจกรรมหลัก แต่การสร้างกิจกรรม การทำงานร่วมกัน สร้างสังคมที่เกื้อกูลกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกันต่างหาก เป็นสิ่งที่เราจะทำต่อไป”
<br />
<br />ซึ่งปาลิดามองว่ากิจกรรมของ Food not Bombs เหมาะสำหรับคนที่อยากทำกิจกรรมทางสังคม คนรุ่นใหม่ก็สามารถเริ่มต้นจากกลุ่มเล็กๆ กลุ่มนี้เพื่อแสวงหาต่อยอดในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมอื่นๆ ที่เข้มข้นกว่าในอนาคตได้
<br />แต่การทำกิจกรรมของ Food not Bombs ก็ยังพบอุปสรรค โดยเฉพาะเรื่องของทรัพยากรในการดำเนินกิจกรรม
<br />“เรายังขาดทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็น คน เงิน และเวลา ในการดำเนินงาน ใช่ว่าทรัพยากรคนที่มีอยู่ของเราไม่มีคุณภาพ แต่สมาชิกของเราเกือบทั้งหมดเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา เลยไม่มีใครทำงานให้องค์กรเต็มเวลา การดำเนินกิจกรรมเลยไม่ค่อยต่อเนื่องเท่าไหร่ แต่ก็ยังมีกิจกรรมออกมาตลอด เราไม่มีการเก็บค่าสมาชิกก็เลยต้องเขียนโครงการไปพึ่งแหล่งทุนอื่น”
<br />อย่ามองเด็กเหมารวม
<br />
<br />เมื่อถามว่าคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะเด็กมัธยม โดนวิจารณ์เรื่องไม่สนใจปัญหาสังคม ปาลิดาให้ความเห็นว่าในบางครั้งมองเด็กเพียงด้านเดียว และบ่อยครั้งยังแถมประเด็นการ ‘เหมารวม’ พร้อมกับย้อนถามว่า ต้นเหตุแท้จริงมันมาจากความคาดหวังของผู้ใหญ่ ที่มักวางกรอบให้เด็กไม่สนใจปัญหาสังคมตั้งแต่ต้นมาแล้ว
<br />
<br />“อันที่จริงพวกผู้ใหญ่จะไปพูดว่าเด็กไม่สนใจปัญหาสังคมไปทั้งหมดก็ไม่ถูกนะ เด็กมัธยมรุ่นนี้ก็สนใจปัญหาสังคมเหมือนกัน กรุณาอย่าพูดแบบ ‘เหมารวม’ ซึ่งพวกเด็กๆ ก็มักคิดว่าสนใจปัญหาสังคมแล้วกูทำอะไรได้วะ แล้วสังคมตอนนี้ส่วนใหญ่ก็บริโภคนิยมฉาบฉวยกันมั้ง ทุกวันนี้การแข่งขันในระบบการศึกษามันสูงมาก ใครดีใครได้และก็ต้องมาเครียดกับการอ่านหนังสือเรียน เครียดกับเรื่องการเตรียมสอบ อนาคตของตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า”
<br />
<br />“แล้วพวกผู้ใหญ่นี่แหละชอบปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ ว่าหน้าที่ของเด็กคือตั้งหน้าตั้งตาเล่าเรียนหนังสือเข้าไป ยังไม่ต้องไปสนใจเรื่องอื่นเพราะไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไกลตัว ปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาทำไปเถอะ ตัวแค่นี้จะไปทำอะไรได้ แบบนี้จะไปโทษเด็กได้ยังไงมันอยู่ที่การปลูกฝังและความสนใจเฉพาะตัวเด็ก”
<br />
<br />“แล้วสภาพแวดล้อมในขณะนี้ หากนำไปเทียบกับยุคที่นักเรียนนักศึกษาตื่นตัวมากๆ อย่างช่วง สิบสี่ตุลา หกตุลา ก็จะเห็นว่าสภาพแวดล้อมมันต่างกัน อุดมการณ์ที่จะทำเพื่อสังคมมีสูงมาก มีเหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์ที่กระตุ้นให้พวกเขาเหล่านั้นรวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมทางสังคม อย่างการออกค่ายไปสัมผัสชีวิตชาวนา การตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อพูดคุยกันถึงความเป็นไปของบ้านเมือง หรืออะไรเทือกนั้น แต่ในปัจจุบันพวกถึงแม้ว่าเด็กจะรับรู้ถึงปัญหาสังคม แต่ก็ไม่ได้มีความรู้สึกร่วมต่อปัญหานั้น ไม่ได้มีการนำปัญหานั้นมาต่อยอด มาจับกลุ่มคุยกันว่าว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างต่อปัญหานั้นๆ เพราะมันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ น่ารำคาญ และแลดูไกลตัวเกินไป”
<br />
<br />“เพื่อนๆ ในวัยเดียวกันจะสนใจแต่เรื่องของการจะทำยังให้ได้คะแนนดีๆ การที่จะทำยังไงให้ตัวเองสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แน่นอนเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเด็กทุกคนเพราะสมัยนี้จบปริญญาตรี ยังหางานทำไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับแค่ ม.6 ดังนั้นการเข้ามหาวิทยาลัยจึงเป็นจุดมุ่งหมายเดียวและเป็นเป้าหมายร่วมของเด็กวัยนี้ ฉะนั้นการทำกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่จึงทำไปในทิศทางเดียวกัน อย่างการไปเรียนโรงเรียนกวดวิชาชื่อดัง การเอาเวลาส่วนใหญ่ไปอ่านหนังสือ มากกว่าจะอาเวลามาสนใจปัญหาสังคม ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เวลาจะหาแนวร่วมทำกิจกรรมของ Food not Bombs หรือกิจกรรมอื่นๆ นี่ยากมาก”
<br />การเมือง “เหลือง - แดง”
<br />
<br />ในประเด็นการเมืองไทยปัจจุบัน เมื่อถามปาลิดาว่าคิดอย่างไร กับการเมือง “เสื้อเหลือง เสื้อแดง” รวมถึงบรรยากาศการพูดคุยของเด็ก ม.6 เกี่ยวกับเรื่องการเมืองปัจจุบัน
<br />
<br />“ผลประโยชน์มันล่อตาล่อใจอำนาจมันล่อไม้ล่อมือเลยมีมหกรรมแย่งชิงพื้นที่ทางการเมืองเป็นการใหญ่แต่ไหนแต่ไร ไม่ต้องจัดมหกรรมประจำปี เพราะมันเกิดทุกวัน เมื่อถามว่าประชาชนได้อะไรที่ควรได้บ้างไหม ก็ได้อะไรที่มันไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีรุ้ง มันก็ได้แต่คนในเมืองทั้งนั้น แล้วคนที่อยู่รอบนอกล่ะ เขาไม่ได้อยู่ในประเทศไทยหรือไง”
<br />
<br />“เลยเกิดคำถามว่าบ้านเมืองเราคงมีปัญหาเรื่องชาติพันธุ์น้อยเกินไปหรือเปล่า เลยต้องสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาเพื่อเพิ่มความแตกต่าง เสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อน้ำเงิน เสื้อขาว เสื้อชมพู เสื้อสีรุ้ง บลา บลา บลา ผุดขึ้นมาเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด แน่ล่ะ สถาณการณ์ทางการเมืองมันส่งผลให้ต้องแสดงออกถึงเจตนารมณ์และอุดมการณ์ แต่คุณต้องไม่ลืมว่าการแสดงออกที่ชัดเจนอย่างเสื้อเหลือง เสื้อแดงนั้น มันเป็นการแบ่งขั้วมากเกินไปหรือเปล่า”
<br />
<br />“อย่างสมมุติว่าคนที่มีความคิดไม่สนับสนุนทักษิณ แต่อยากได้ประชาธิปไตยไม่เทียมจะจัดเขาอยู่ตรงโซนไหนของเสื้อแดง แดงเข้ม แดงปานกลาง แดงอ่อนหรือแดงอ่อนๆ จะนิยามคำว่าเสื้อแดงยังไง หรือถ้าสมมติว่าคนที่ไม่ต้องการทุนนิยมสุดขั้ว ไม่ต้องการนักกินเมืองขี้ฉ้อ แต่ยังอยากได้นายกฯแบบที่มาจากประชาธิปไตยล่ะ จะแบ่งยังไง เหลืองเข้ม เหลืองปานกลาง เหลืองอ่อน หรือเหลืองอ่อนๆ นี่คือปัญหา การเมืองไทยเป็นอะไรที่เข้าใจยากมาก หากจะให้นิยามตัวเองด้วยสี คงจะเป็นสีส้ม”
<br />
<br />และเมื่อถามถึงบรรยากาศในชั้นเรียนของปาลิดา เกี่ยวกับการพูดคุยเรื่องการเมือง ว่าเชียร์เสื้อเหลือง เชียร์เสื้อแดง เชียร์อภิสิทธิ์ เชียร์ทักษิณ บ้างไหม ปาลิดาให้คำตอบสั้นๆ
<br />
<br />“คุยกันบ้าง ก็เชียร์แบบตามกระแสเสื้อเหลืองฟีเวอร์เลย พี่มาร์คสุดหล่อ การศึกษาดี ชาติตระกูลดี แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมทักษิณถึงเลวเสื้อแดงถึงถ่อย”
<br />
<br />… เหล่านี้คือคำตอบของเด็ก ม.6 โรงเรียนอัมพรไพศาล ที่กำลังผิดหวังกับผลการสอบกลางภาคนิดหน่อย แต่อีกด้านหนึ่งเธอกำลังมุ่งมั่นทำกิจกรรมนอกห้องเรียนเพื่อเผาผลาญชีวิตวัยเยาว์ของตัวเองอย่างขมักเขม้น
<br /></p><p>ที่มา <a href="http://www.prachatai.com/journal/2009/08/25593">http://www.prachatai.com/journal/2009/08/25593</a></p>bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-21615404587323534362009-08-26T11:31:00.000-07:002009-08-26T11:34:04.820-07:00ปาฐกถา สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ: “บทเรียนและการต่อสู้ของสหภาพแรงงานกับรัฐและทุนข้ามชาติ”<div align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgxkhyphenhyphen4GnAFstcFLt3W_ndNJUhdfOK1g2E2rzAvzWUP3lIHH0Ffug1U_JjQTu4ghAyFkYj6q18mkjN2X2_3PijMz_GwoLnJq_pVWxcH0usfWqCNWSf-EPbWB7ylv-Uexp2sJdf-q-Fdkt8L/s1600-h/1_0.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5374342364879922338" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgxkhyphenhyphen4GnAFstcFLt3W_ndNJUhdfOK1g2E2rzAvzWUP3lIHH0Ffug1U_JjQTu4ghAyFkYj6q18mkjN2X2_3PijMz_GwoLnJq_pVWxcH0usfWqCNWSf-EPbWB7ylv-Uexp2sJdf-q-Fdkt8L/s320/1_0.jpg" border="0" /></a><br />แล ดิลกวิทยรัตน์ นักวิชาการด้านแรงงาน เป็นตัวแทนมอบเหรียญแด่ตัวแทนสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ บุญรอด สายวงศ์ เลขาธิการสหภาพฯ</div><br /><br />เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคม มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน มอบเหรียญเจริญ วัดอักษร ประจำปี 2552 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่มอบให้กับนักต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมือง สิทธิทางการเมือง ในการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย โดยผ่านกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การปกป้องทรัพยากร หรือการเคลื่อนไหวทางการเมืองภาคประชาชนในทุกรูปแบบ ให้แก่ สหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย<br /><br />ในงานดังกล่าว นางสาวจิตรา คชเดช ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ ในฐานะตัวแทนสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ กล่าวปาฐกถา เรื่อง “บทเรียนและการต่อสู้ของสหภาพแรงงานกับรัฐและทุนข้ามชาติ” ดังนี้<br /><br /><br /><br />00000<br /><br /><br /><br /><br /><br />จิตรา คชเดช<br />ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />“ความเข้มแข็งของเรา ไม่มีอำนาจใด ที่จะล้มล้างไปได้และผมคิดว่า…ชุมชนของเราต้องดีขึ้นเมื่อพี่น้องประชาชนรวมตัวกัน พลังของเรายิ่งใหญ่…หลาย ๆ เรื่องที่จะเข้ามาในชุมชน แม้แต่นายทุนข้ามชาติก็แล้วแต่…เราสู้ได้ ถ้าพี่น้อง ประชาชน ยังรวมตัวกัน” นี่เป็นคำกล่าวของเจริญ วัดอักษร<br /><br /><br /><br /><br />สหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2523 ได้ผ่านการยื่นข้อเรียกร้องเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างต่อบริษัทไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด มาอย่างต่อเนื่อง เรื่องค่าจ้างและสวัสดิการเรื่องสิทธิเสรีภาพของคนงานเช่นการลางานเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ในปี 2524 มีการยื่นข้อเรียกร้องให้นายจ้างเยอรมันหยุดกิริยาเหยียดหยามคนไทย ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการยื่นข้อเรียกร้องของคนงานและสหภาพแรงงานฯ ต่อบริษัทฯ ทั้งหมด ทุกอย่างไม่ได้มาจากนายจ้างใจดี และให้มาเฉยๆ โดยที่ไม่มีสาเหตุ บริษัทไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ได้จดทะเบียนเมื่อปี พ.ศ. 2512 ได้เช่าอาคารสิวะดล แถวถนนคอนแวนต์ สีลม โดยมีคนงานไม่กี่ 100 คน และเริ่มขยายกิจการมีผู้ถือหุ้นที่น่าสนใจ คือนายเดวิด ไลแมน เจ้าของบริษัทติลลิกีแอนด์กิบบินส์ บริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมายเก่าแก่ที่สุดในมืองไทย 100 กว่าปีและนางเลียวนี่ เดซี่ เวชชาชีวะ มีชาวเยอรมันเป็นหุ้นส่วนใหญ่จดทะเบียนในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ปัจจุปันบริษัทตั้งอยู่ที่ที่ 393 หมู่ 17 นิคมอุตสาหกรรมเมืองใหม่บางพลี ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ. สมุทรปราการ มีคนงานประมาณ 4,200 คน และทำการผลิตชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำ ยี่ห้อ ไทรอัมพ์ วาเลเซีย สล๊อคกี้ AMO, HOM และได้รับจ้างผลิตชุดชั้นในชื่อดังหลายยี่ห้อเช่นมาร์คแอนสเปนเซอร์ บริษัทได้เริ่มขยายสาขาไปที่จังหวัดนครสวรรค์ ชื่อบริษัท บอดี้ แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด. ที่อยู่ : 194/2 หมู่ 5 พหลโยธิน ตำบลหนองกรด อำเภอเมือง จ. นครสวรรค์ 60240 และเมื่อปี 2551 บริษัทบอดี้แฟชั่นฯ นครสวรรค์ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นเงิน 75.5 ล้านบาท ได้ขยายโรงงานรองรับการผลิตบรรจุพนักงานได้ 2,000 กว่าคน<br /><br />สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ เป็นสหภาพแรงงานฯ ที่ทำงานกับสมาชิกและคนงานมาโดยตลอดเราเป็นสหภาพแรงงานฯ ที่ใช้ระบบการเก็บเงินค่าบำรุง สื่อข่าวสาร รับเรื่องราวร้องทุกข์ รับคำเสนอแนะ ผ่านระบบตัวแทนไลน์ตัวแทนแผนก และเป็นสหภาพแรงงานที่ประธานสหภาพมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากที่ประชุมใหญ่<br /><br />ตัวแทนไลน์ตัวแทนแผนกมาจากไหน? ก็คือได้รับการคัดเลือกจากสมาชิกในไลน์การผลิตนั้นๆ โดยใช้โครงสร้างของบริษัทให้เกิดประโยชน์คือตัวแทนไลน์เทียบเท่าหัวหน้างาน แต่มาจากการเลือกตั้งของคนในไลน์นั้น หนึ่งไลน์การผลิต เท่ากับประมาณห้าสิบคน ตัวแทนไลน์จะนำเรื่องต่างๆ เข้าสู่ที่ประชุมตัวแทนไลน์ซึ่งจัดให้มีเดือนละหนึ่งครั้งและกรณีเร่งด่วนนำสู่กรรมการสหภาพแรงงานฯ กรรมการจะนำเรื่องเข้ามาแก้ปัญหาโดยเร็ว เมื่อมีคนงานใหม่ตัวแทนไลน์จะแนะนำให้เป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน สหภาพแรงงานฯ จึงมีสมาชิกในฝ่ายผลิตเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ซึ่งถือว่าเป็นสหภาพแรงงานที่เป็นประชาธิปไตย<br /><br />การจัดกิจกรรมสมาชิก สหภาพแรงงานจัดให้มีกลุ่มศึกษาในเวลาพักกลางวันใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีเราจะคุยกันทุกเรื่องเรื่องปัญหาในบ้าน ในโรงงาน ในบ้านเมือง และจัดให้การศึกษาหลังเวลาเลิกงานในเเรื่องต้นทุนการผลิต กำไร จำนวนงานที่ทำกับสิ่งที่เราได้ตอบแทน และจัดให้กับเพื่อนคนงานในโรงงานทุกคน<br /><br />สหภาพแรงงานฯ ได้ป็นสหภาพที่ร่วมก่อตั้งและเป็นสมาชิกสหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอฯ ได้เข้าร่วมเรียกร้องประกันสังคม เรียกร้องประกันการว่างงาน เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองที่สำคัญเช่นเหตุการณ์พฤษภาปี 35 เข้าร่วมต่อต้านรัฐประหาร ปี 49 เราเรียกร้องสิทธิทำแท้งเข้าถึงสุขอนามัยและถูกกฎหมายรวมถึงเรียกร้องรัฐสวัสดิการ<br /><br />ในปี 2535 สหภาพแรงงานฯ ได้พาคนงานผละงานทั้งหมดเรียกร้องให้นายจ้างเข้ามาดูแลคนงานเรื่องสวัสดิการรถรับส่ง ได้หยุดงาน 18 วัน จนเป็นเหตุให้รัฐมนตรีใช้มาตรา 35 ให้คนงานกลับเข้าทำงาน<br /><br />เมื่อปี 2542 สหภาพแรงงานฯ ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อบริษัทฯ ไม่สามารถตกลงกันได้จนถึงขั้นนายจ้างปิดงาน คนงานชุมนุมอยู่หน้าโรงงาน 22 วันและได้มีข้อตกลงสภาพการจ้างออกมาเรื่องการเลิกจ้างให้นายจ้างต้องร่วมกับสหภาพแรงงานฯ ให้เกิดความเป็นธรรมและเสมอภาค<br /><br />ในบริษัทบอดี้ แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีระบบการจ้างงานที่ให้คนงานมีแรงจูงใจในการทำงานสำหรับพนักงานเย็บ คือเย็บงาน 40 ชิ้นบริษัทจะจ่ายเป็นคูปอง ในคูปองจะกำหนดนาทีแล้วแต่ความยากง่าย เมื่อได้นาทีแล้วจะต้องนำไปส่งตอนเย็นเลิกงาน และบริษัทจะนำคูปองมาคิดเป็นเงิน (ราคาต่อนาที มาจากการยื่นข้อเรียกร้อง ตัวอย่างเช่น วันนี้ทำงานได้ 500 นาทีX ราคาคูปอง 1.300บาท=650 บาท เท่ากับคนงานจะได้ค่าจ้าง 650 บาท ถ้าทำไม่ได้จะได้ค่าจ้างมาตรฐาน 333 บาท) ฉะนั้นคนงานยิ่งทำงานมากยิ่งได้เงินมากพวกเราเลยได้เห็นการทำงานที่ไม่กินน้ำ ไม่เข้าห้องน้ำ เข้างานก่อนเวลา และป่วยเป็นโรคไต ปวดหลังกันมากที่สุด เมื่อต้นปี 2547 บริษัทฯ ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงขบวนการผลิต และจะใช้ที่ประเทศไทยเป็นที่แรกนำร่องและเริ่มใช้กับส่วนที่ผลิตชุดว่ายน้ำเท่านั้น ถ้าที่ไทยประสพความสำเร็จจะนำไปปฎิบัติที่อื่นต่อไป คือลดนาทีคูปองเคยเย็บได้ 40 ชิ้น ได้ 10 นาที มาเปลี่ยนเป็น 5 นาที สหภาพแรงงานฯ ได้ออกมาคัดค้านจนเป็นเหตุให้บริษัทฯ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ จนถึงปัจจุปัน (พวกเราเชื่อว่าเป็นระบบการจ้างงานที่ขูดรีดแรงงานของเรามากที่สุดในโลก)<br /><br />ในขณะเดียวกันเมื่อ ปี 2549 สหภาพแรงงานได้ตั้งคณะกรรมการสหภาพแรงงานชุดใหม่มี จิตรา คชเดช เป็นประธานสหภาพแรงงานฯ และเป็นพนักงานเย็บชุดว่ายน้ำและกรรมการสหภาพแรงงานทั้งหมดส่วนใหญ่เกินครึ่งมาจากส่วนผลิตชุดว่ายน้ำและในปีนี้เองเป็นปีแรกที่ประธานสหภาพมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากที่ประชุมใหญ่ ตั้งแต่กรรมการชุดใหม่ถูกเลือกตั้งมา เมื่อมีการเลิกจ้างคนงานไม่เป็นธรรม การจัดรถรับส่งที่ไม่ได้มาตรฐาน การจัดผ้ายูนิฟอร์มที่คุณภาพต่ำให้กับคนงาน การจัดงานวันครอบครัว การจัดงานไปเที่ยวต่างจังหวัดที่เป็นไปแบบไม่โปร่งใส รวมถึงการออกคำสั่งใบเตือนเร่งเป้าการผลิตสำหรับคนท้องคนงานอายุมาก และความปลอดภัยในโรงงาน คนงานในส่วนชุดว่ายน้ำจะเริ่มหยุดทำงานล่วงเวลาและนำไปสู่การหยุดทำงานล่วงเวลาของคนงานทั้งโรงงาน และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบทุกเรื่องอย่างเข้มงวดและสหภาพแรงงานได้ส่งกรรมการสหภาพเข้าไปดูแลทุกเรื่องอย่างใกล้ชิด มีอยู่ครั้งหนึ่งในบริษัทฯ มีพนักงานเอาเหล้ามาดื่มในเวลาทำงานในวันหยุดทั้งหมดประมาณ 20 คน รวมถึงหัวหน้างานด้วย บริษัทฯ เลิกจ้างคนงานกินเหล้าในโรงงาน 5 คน สั่งพักงาน 1 คน ที่เหลือไม่มีการลงโทษใดๆ ครั้งนั้นสหภาพแรงงานเรียกร้องให้บริษัทฯ ไม่เลือกปฏิบัติและมีคนงานหยุดการทำงานล่วงเวลา จนเป็นเหตุให้บริษัทฯ รับพนักงานที่ถูกเลิกจ้างกลับเข้าทำงานตามปกติ<br /><br />เมื่อเดือนสิงหาคม 2549 พนักงานฝ่ายขายในกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้พร้อมใจกันผละงาน เพื่อเรียกร้องให้บริษัทเอาผู้บริหารระดับสูงของฝ่ายขายออกไปและให้ผู้บริหารชาวสิงคโปรค์ออกมาขอโทษคนงานกรณีที่เอาเท้าเต๊ะงานให้พนักงานขายคนไทยและให้คืนค่าคอมมิชชั่นจากการขายให้เท่าเดิม ในขณะนั้นสหภาพแรงงานได้เข้าไปร่วมเจรจาจนสามารถตกลงกันได้และในครั้งนั้นพนักงานทั้งหมดฝ่ายขายทั่วประเทศได้มาเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานทั้งหมด<br /><br />ในปี 2550 ในขณะที่ประเทศไทยกำลังจัดให้มีรัฐธรรมนูญใหม่ ในขณะที่คนงานไทรอัมพ์กำลังจะยื่นข้อเรียกร้องเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างเพื่อปากท้องของตัวเอง พวกเราไม่สามารถจัดให้มีการประชุมสมาชิกได้ พวกเรามีทหารมาแจ้งว่าไม่ให้จัดการประชุม และเราก็มีทหารมาตั้งเต๊นที่หน้าโรงงานเพื่อตรวจบัตรคนงานที่ทำโอทีและถามว่าพวกเราจะไปใหนกัน ในขณะที่ประธานสหภาพแรงงานโดนนายจ้างเรียกไปขอความร่วมมือห้ามหยุดงานเพราะ กอ.รมน.จังหวัดได้ขอร้อง<br /><br />เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2551 ประธานสหภาพแรงงานฯ จิตรา คชเดช ได้รับเชิญให้ไปออกรายการโทรทัศน์ ช่อง NBT เรื่องทำท้องทำแท้ง เวลา 5 ทุ่ม ในขณะที่ประเทศไทยมีความขัดแย้งทางการเมืองบริษัทฯ ได้ฉวยโอกาส วันที่ 28 เมษายน เริ่มมีใบปลิวเป็นกระดาษที่ใช้แล้วของบริษัทฯ ออกมาโจมตีประธานสหภาพฯ มีผู้จัดการบางคนทำใบปลิวด่าประธานสหภาพฯ โดยใช้กระดาษอุปกรณ์ทุกอย่างของบริษัททั้งหมด และในใบปลิวมีข้อความให้ทำร้ายและถ่ายเอกสารคอมเม้นท้ายข่าวเว็บไซต์ผู้จัดการมาแจกคนงานวันที่ 30 เมษายน บริษัทฯ เรียกจิตรา ให้ไปชี้แจง เรื่องดังกล่าวและบอกว่าบริษัทไม่ได้มีปัญหาอะใร หลังการชี้แจงอนุญาติให้ใช้เครื่องเสียงและพื้นที่โรงอาหารของบริษัทฯ ในการชี้แจงต่อเพื่อนพนักงานแต่สมาชิกสหภาพแรงงานเข้าใจทันทีว่าเป็นการทำลายสหภาพแรงงานไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของประธาน<br /><br />วันที่ 9 มิถุนายน 2551 สหภาพแรงงานฯ ยื่นข้อเรียกร้องเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง บริษัทฯ ได้นัดการเจรจาข้อเรียกร้อง ตัวแทนของบริษัทโดยนายมาคูส คาร์บิส (Markus Kabisch) กล่าวว่า “ไทรอัมพ์เป็นบริษัทที่มีบริษัทเป็นของตัวเอง ยังเป็นบริษัทท้ายๆ ที่คงโรงงานไว้ ตามตารางเห็นว่าไทรอัมพ์มีต้นทุนสูง เจ้าของกิจการอาจมีมุมมองในเรื่องการจ้างซับคอนแทคแทน” การเจรจาไม่สามารถตกลงกันได้ จนนำไปสู่การพิพาทแรงงาน การเจรจาวันที่ 30 มิถุนายน 2551 สหภาพแรงงานฯ ได้แจ้งบริษัทว่าจะขอมตินัดหยุดงานในวันที่ 4 กรกฎาคม 2551 วันที่ 2 กรกฎาคม 2551 บริษัทฯ และสหภาพแรงงานบรรลุข้อตกลงเป็นข้อตกลงที่สหภาพแรงงานฯ ไม่คิดว่าจะได้ฟังแบบไม่เชื่อว่าบริษัทจะให้ แต่เป็นที่พอใจของคนงานเป็นอย่างมาก<br /><br />วันที่ 29 กรกฎาคม 2552 เป็นวันที่บริษัทฯ เรียก จิตรา ประธานสหภาพแรงงาน ไปที่อาคารวานิชแล้วแจ้งว่าบริษัทได้เลิกจ้างตามคำสั่งศาล เมื่อคนงานทราบข่าว วันที่ 30 กรกฎาคม 2551 สมาชิกสหภาพแรงงานและคนงานเกือบทั้งหมดได้ผละงานออกมาประท้วงเรียกร้องให้บริษัทรับประธานสหภาพกลับเข้าทำงาน สมาชิกเชื่อว่าเป็นการทำลายสหภาพแรงงาน วันที่ 12 กันยายน 2551สามารถหาข้อยุติได้ เป็นเวลา 45 วัน<br /><br />สหภาพแรงงานเข้าใจว่าที่สุดพวกเราไม่สามารถทนต่อสภาพที่ไม่มีเงินค่าเช่าบ้าน เงินให้ลูกไปโรงเรียนและเงินที่ต้องส่งให้พ่อกับแม่ที่ต่างจังหวัดได้ จึงปรึกษากันว่าทุกคนจะกลับเข้าทำงานและจะเก็บเงินเป็นค่าจ้างให้จิตรา อยู่กับสหภาพแรงงาน โดยเป็นเจ้าหน้าที่และที่ปรึกษาและจิตราไปสู้ในชั้นศาล<br /><br />ศาลใช้เวลาไต่สวนสี่วันและหลังจากนั้น หนึ่งอาทิตย์ศาลตัดสินว่าการใส่เสื้อที่มีข้อความไม่ยืนไม่ใช่อาชญากร คิดต่างไม่ใช่อาชญากรรม ไปออกทีวีนั้นเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายให้นายจ้างเลิกจ้างได้เพราะลูกจ้างไม่มีจิตวิญญาณประชาชาติไทย<br /><br />ในขณะที่บริษัทฯ มี Code of Conduct หลักปฎิบัติของไทรอัมพ์ได้พูดสิทธิเสรีภาพ ในการแสดงออก ความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่าง ได้รับมาตรฐานแรงงานไทย แต่รัฐบาล กระทรวงแรงงานไม่สามารถดำเนินการอะใรกับบริษัทฯ ได้อ้างอย่างเดียวว่าอยู่ในชั้นศาล<br /><br />วันที่ 29 มิถุนายน 2552 บริษัทได้ประกาศเลิกจ้างคนงานทั้งหมด 1,959 คน คนงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตชุดว่ายน้ำทั้งหมดถูกเลิกจ้างเหลือไว้แต่พนักงานเย็บตัวอย่างชุดว่ายน้ำ ทำแพทเทิร์น ทำนาทีคูปอง และเหลือหัวหน้างานไว้ เพียง 8 คน คนงานในการผลิตชุดชั้นใน ถูกเลือกส่วนใหญ่ คนท้อง คนอายุใกล้เกษียณ คนป่วย คนพิการ และคนที่ลงชื่ออันดับต้นๆ ที่แสดงเจตนารมณกลับเข้าทำงานเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2551มีกรรมการสหภาพแรงงานถูกเลิกจ้างทั้งหมด 13 คน จากกรรมการสหภาพแรงงาน 18 คน<br /><br />การเลิกจ้างครั้งนี้บริษัทฯ อ้างว่า “ต้องการปรับปรุงโครงสร้างค่าใช้จ่ายระยะยาวของไทรอัมพ์ทุกหน่วยงาน จุดมุ่งหมายเพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กรให้มีประสิทธิผล ทำให้เกิดความมั่นใจว่าธุรกิจของเรายังคงยืนหยัดอยู่ได้ด้วยความมั่นคงและยังขยายต่อได้เมื่อโอกาสมาถึง” พวกเราเชื่อว่าการเลิกจ้างครั้งนี้เป็นการทำลายสหภาพแรงงาน หาแหล่งค่าจ้างราคาถูก เตรียมใช้ระบบจ้างงานซับคอนแทค ที่นายทุนไม่ต้องรับผิดชอบสวัสดิการ การเรียกร้องจากสหภาพแรงงาน<br /><br /><br />ตลอดระยะเวลา 29 ปีของสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ เป็นเวลาที่ต้องต่อสู้ตลอดนับตั้งแต่วันเริ่มต้นที่พวกพี่ๆ ต้องหลบๆ ซ่อนๆ กว่าจะมีองค์กรได้ ก็ต้องเริ่มต้นปกป้อง เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ปากท้อง ความเป็นอยู่ที่ดีของคนงานต่อนายทุน ต่อรัฐบาล ไม่เคยมีสักครั้งที่ทุกอย่างจะได้มาโดยง่ายดายแต่พวกเรายังได้บ้าง ไม่ได้บ้างถึงจะไม่ถึงเป้าหมายแต่มันเกิดจากการ “รวมตัวกัน” ของคนงานจึงทำให้เรามีอำนาจ พลังที่จะสามารถต่อรองได้<br /><br /><br /><br /><br />สหภาพแรงงานฯ กำลังถูกทำลายโดยนายทุนที่ร่วมมือกับรัฐบาล กลไกทุกอย่างของรัฐที่สร้างขึ้นมา เช่น คุก ศาล ทหาร ตำรวจ กระทรวงแรงงาน มีไว้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนายทุน เพราะนายทุนต้องการกำไรสูงสุดในขณะที่รัฐบาลก็มีแต่ตัวแทนนายทุน ในขณะที่คนงานคนจนไม่มีตัวแทนของเราในรัฐบาลมีแต่คอยเรียกร้องให้รัฐบาลช่วย เพราะเชื่อว่ารัฐจะเป็นกลางแต่ตลอดระยะเวลาการต่อสู้ของคนงานไทรอัมพ์ไม่เคยมีสักครั้งที่รัฐจะช่วยเหลือและเป็นกลาง มีแต่รัฐจะเข้ามาแทรกแซงเมื่อคนงานอย่างพวกเรากำลังจะได้อะไรจากนายทุนบ้าง เมื่อพวกเราถูกกระทำเราไม่เคยเห็นหน้ารัฐ เช่นทุกวันนี้ที่พวกเราชุมนุมกันที่หน้าโรงงานเพราะถูกเลิกจ้าง ทำไมต้องเลิกจ้างเพราะนายทุนและรัฐกำลังทำลายการรวมตัวของเรา เพราะเขารู้ว่าเราสู้ได้เรานำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ถ้าเรารวมตัวกัน<br /><br />กลไกสำคัญที่รัฐสร้างขึ้นมาที่คนงานส่วนใหญ่หลงเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตคนงานดีขึ้นคือระบบไตรภาคี ระบบไตรภาคีเป็นระบบที่ทำให้คนงานแบ่งแยก ช่วงชิงและไม่ได้ให้ประโยชน์กับขบวนการแรงงานแต่เป็นการเอื้อประโยชน์กับผู้นำบางคนที่สุดแล้วคนงานก็ยังถูกควบคุมมากขึ้นจากพวกเรากันเองด้วยซ้ำ<br /><br />เมื่อเราย้อนถึงคำพูดของคุณเจริญ วัดอักษร “เราสู้ได้ ถ้าพี่น้อง ประชาชน ยังรวมตัวกัน” เช่นเดียวกันคนงานสู้ได้ถ้าเรารวมตัวกัน<br /><br />การต่อสู้ของคนงาน คนจนไม่มีวันจบสิ้นตราบใดที่นายทุนยังไม่หยุดการแสวงหากำไรสูงสุด ตราบใดที่อำนาจรัฐอยู่ในมือนายทุน และตราบใดที่คนงานคนจนยังขาดการรวมตัวกันและคนงานคนจนยังไม่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ<br /><br /><br />ที่มา http://www.prachatai.com/journal/2009/08/25550bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-62718926446672315852009-08-21T21:04:00.001-07:002009-08-21T21:12:05.981-07:00คุณคือ...กรรมาชีพ!<div align="center"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5372634319854912898" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 227px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjDOcSPc4OaP1mcGoRc9oOwXP349b7bKJzeEKYk_j-a25xry-_q9sLSm45Q-rtk_hlwbwDZOYAl0CTPjzH7w01f7EOI0g0jZQg5AgBI202Auypn-RGGTqSVrbQj9WC19vKybPiwYtR4DBQM/s320/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%5B1%5D...JPG" border="0" /> ฟังคำอธิบายบางส่วนได้ที่<br /><a href="http://prakaifire.blogspot.com/2009/08/clip-prakaifire-in-move.html">Clip ประกายไฟเสวนา(ภาค Prakaifire in the Move) ตอน สหภาพแรงงาน...ทำไมต้องชนชั้น?</a> </div><div align="center"> </div><div align="center">ชนชั้นนายทุน หมายถึงชนชั้นนายทุนสมัยใหม่ซึ่งครองปัจจัยการผลิตเป็นเจ้าของเครื่องจักรเครื่องมือในการผลิตของสังคมและใช้แรงงานรับจ้างโดยจ้างลูกจ้าง พนักงาน ชนชั้นกรรมาชีพ หมายถึงชนชั้นกรรมาชีพรับจ้างสมัยใหม่ซึ่งไม่มีปัจจัยการผลิตของตนเอง ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องอาศัยการขายพลังแรงงานเพื่อยังชีพ ( หมายเหตุโดยเองเกิลส์ในฉบับภาษาอังกฤษปี 1888 อ่านต่อได้ที่ <a href="http://www.marx.org/thai/archive/marx-engels/1848/communist-manifesto/ch01.htm">แถลงการณ์พรรคคอมมิวนิสต์</a>)</div>bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-31182576888586925312009-08-15T00:12:00.000-07:002009-08-15T00:30:24.145-07:00ประกายไฟเสวนา ตอน “6 + 1 เดือนรัฐบาลอภิสิทธิ์กับวิกฤติแรงงาน”<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhfwfhk5d6YHaqSPyECy6obNWVX_AxK8cLNfjWHwqQZxGj6qiSbAB945Ke1VjkeeiYb1pNefb3KbyGr3JWkd_0I9iMaKEqs2XpzEGMy5gL6E9B44PdmWhHZtJZAGrALfnAnfB2YGPRkYnLs/s1600-h/5491_101813303077_670498077_1931414_2332384_n.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5370089317374415250" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 226px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhfwfhk5d6YHaqSPyECy6obNWVX_AxK8cLNfjWHwqQZxGj6qiSbAB945Ke1VjkeeiYb1pNefb3KbyGr3JWkd_0I9iMaKEqs2XpzEGMy5gL6E9B44PdmWhHZtJZAGrALfnAnfB2YGPRkYnLs/s320/5491_101813303077_670498077_1931414_2332384_n.jpg" border="0" /></a><br /><span style="color:#ff0000;">12.00 – 16.00 น. วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2552<br />@ ห้องประชุมมูลนิธิ 14 ตุลา(ตึกหลัง) สีแยกคออกวัว ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพฯ<br /></span><br />หลังจากวันที่ 30 ธันวาคม 2551 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งนโยบายหรือมาตราการที่ได้แถลงในวันนั้นมีในส่วนที่สำคัญคือมาตรการเร่งด่วนระยะ 1 ปี โดยในส่วนนี้มีมาตราการเกี่ยวกับผู้ใช้แรงงานโดยตรงเลยคือเรื่องของ การรักษาและเพิ่มรายได้ของประชาชน โดยนายอภิสิทธิ์ ได้เสนอให้ร่วมมือกับภาคเอกชนในการดำเนินมาตรการชะลอการเลิกจ้างและป้องกันการขยายตัว ของการเลิกจ้างในภาคอุตสาหกรรมและบริการ ทั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดย่อม โดยใช้มาตรการจูงใจเพื่อลดภาระของภาคเอกชนในการชะลอการเลิกจ้างงาน<br /><br />และเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ได้แถลงข่าวผลการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ภายใต้สโลแกนเท่ๆว่าผ่านชื่อหนังสือว่า " 6 เดือน กว่า 100 มาตราการหลายล้านความสุข" แถมด้วยคำขวัญที่ว่า “ความสุขของคนไทย คือเป้าหมายของรัฐบาล” ในขณะที่เมื่อไม่นานมานี้ นางอัมพร นิติสิริ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวถึงการเฝ้าระวังสถานการณ์การเลิกจ้าง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึงวันที่ 7 พฤษภาคม 2552 มีสถานประกอบการที่ปิดกิจการจำนวน 314 แห่ง ลูกจ้างถูกเลิกจ้าง 30,023 คน สำหรับเดือนที่มีการเลิกจ้างมากที่สุดถึง 12,700 คน คือ เดือนกุมภาพันธ์ 2552 รวมผู้ถูกเลิกจ้างตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 - 7 พฤษภาคม 2552 มีสถานประกอบการปิดกิจการไปแล้วจำนวน 1,003 แห่ง ได้ทำการเลิกจ้างคนงานไปแล้วจำนวน 84,876 คน นอกจากนี้ยังมีสถานประกอบการที่มีแนวโน้มเลิกจ้าง 429 แห่ง ลูกจ้าง 184,250 คน<br /><br />ทั้งนี้แรงงานถือเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่ขณะนี้กลับถูกเลิกจ้างไม่ต่ำว่าแสนคน แถม ณ ขณะนี้ยังมีแรงงานที่ถูกเลิกจากขนาดใหญ่อยู่ อย่างกรณีการเลิกจ้างพนังงานของบริษัทไทรอัมพ์ถึง 1,959 คน ยังมีแรงงานที่ถูกละเมิดสิทธิ ยังมีการทำลายการรวมตัวหรือสหภาพแรงงานอยู่ ทำให้เราผู้ใช้แรงงาน นักศึกษาซึ่งจะเป็นแรงงานในอนาคตและนักกิจกรรมเกิดข้อสงสัยกับ “100 มาตรการหลายล้านความสุข” ที่รัฐบาลโฆษณานั้นเป็นจริงหรือไม่มากน้อยเพียงใด ในขณะที่ผู้ใช้แรงงานซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศยังประสบกับ “108 ปัญหาหลายล้านความทุกข์” อยู่ ดังนั้นเพื่อให้เกิดการประเมินสถานการณ์ปัญหาและนโยบายของรัฐบาลร่วมกันของภาคแรงงาน อันจะนำไปสู่การหาแนวทางร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหานี้ จึงได้มีการจัดกิจกรรมในรูปแบบของการเสวนาภายใต้ชื่อ ประกายไฟเสวนา ตอน “6 +1 เดือนรัฐบาลอภิสิทธิ์กับวิกฤติแรงงาน”<br /><br /><br />วัตถุประสงค์<br />1.เพื่อร่วมกันประเมินสถานการณ์ปัญหาที่แรงงานประสบอยู่ ณ ขณะนี้<br />2.เพื่อร่วมกันประเมินนโยบายหรือมาตรการของรัฐบาลเกี่ยวกับแรงงานในรอบ 6 + 1 เดือนที่ผ่านมา<br />3.เพื่อได้ร่วมกันนำเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาแรงงาน<br /><br /><br />การดำเนินกิจกรรม<br /><br />12.00 – 13.00 ลงทะเบียน ร่วมพูดคุยกันตามอัธยาศัย<br />13.00 – 16.00 ร่วมแลกเปลี่ยนไปกับ เสวนา “6 + 1 เดือนรัฐบาลอภิสิทธิ์กับวิกฤติแรงงาน”<br />นำเสวนาโดย ตัวแทนจากคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.)*<br />ศรีไพร นนทรี คณะกรรมการกลุ่มสภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง<br />บุญรอด สายวงศ์ เลขาธิการสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย<br />พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ*<br />ดำเนินรายการโดย<br />ตัวแทนจากกลุ่มประกายไฟ<br /><br />* อยู่ในระหว่างการติดต่อ<br /><br />ติดต่อประสานงาน<br />E - mail prakaifire@gmail.com หรือ bus4530219@hotmail.com<br />089-2583641 , 084-6601664<br />PRAKAIFIRE Blog<br />http://blogazine.prachatai.com/user/iskra/<br />http://prakaifire.blogspot.com/<br />http://prakaifiregroup.hi5.com/<br />http://www.oknation.net/blog/prakaifirebus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-82591424690706774882009-08-11T11:45:00.000-07:002009-08-11T11:51:50.347-07:00Clip ประกายไฟเสวนา(ภาค Prakaifire in the Move) ตอน สหภาพแรงงาน...ทำไมต้องชนชั้น?13.00 - 17.00 น. @ หน้าโรงงานไทรอัมพ์ สถานที่ชุมนุมของสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ<br />นิคมอุตสาหกรรมบางพลี ซอย 7 สมุทรปราการ<br />วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม 2552<br /><br /><br />นำเสวนาโดย<br />ดร.เก่งกิจ กิติเรียงลาภ ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์<br />คุณ ประกีรติ สัตสุด นักศึกษาปริญาเอก Cultural Anthropology,University of Wisconsin Madison<br /><br />ดำเนินรายการโดย เทวฤทธิ์ มณีฉาย กลุ่มประกายไฟ<br /><br /><br /><object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/lwhRXr2IfsM&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/lwhRXr2IfsM&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object><br /><br /><br /><object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/2cVXQ0PiO68&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/2cVXQ0PiO68&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object><br /><br /><object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/uQWUWlj8PZU&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/uQWUWlj8PZU&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object><br /><br /><object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/ThE21yhoHUY&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/ThE21yhoHUY&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object><br /><br /><object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/eTKOH8QMAFw&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/eTKOH8QMAFw&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object><br /><br /><object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/Q_22a1agtIo&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/Q_22a1agtIo&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object><br /><br /><object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/BnACtdMYt1w&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/BnACtdMYt1w&hl=en&fs=1&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object>bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-29563078352303448892009-07-28T03:36:00.000-07:002009-07-28T03:44:52.173-07:00ประกายไฟเสวนา(ภาค Prakaifire in the Move) ตอน สหภาพแรงงาน...ทำไมต้องชนชั้น?<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEivNGH4q4SSauhwk56p-Xt9ZW7zeQrnwxDJhfj5QjvvorVmZFjmWeuwnsbH8B41sB4h0QokUXvO59FjqAMCyz0xf4uwxgL36KutlPEvjtKoEpTQfnklXWZY6T5QUiu6cGroyduvOPwzJjIE/s1600-h/prakaifire+in+the+move2.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5363460009687574866" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 226px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEivNGH4q4SSauhwk56p-Xt9ZW7zeQrnwxDJhfj5QjvvorVmZFjmWeuwnsbH8B41sB4h0QokUXvO59FjqAMCyz0xf4uwxgL36KutlPEvjtKoEpTQfnklXWZY6T5QUiu6cGroyduvOPwzJjIE/s320/prakaifire+in+the+move2.jpg" border="0" /></a><br /><div align="center"><span style="font-size:180%;">วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม 2552 นี้<br />ประกายไฟจะประทุเมื่อ เกิดคำถาม<br /><br />แรงงานวิกฤติ อภิสิทธิ์อยู่ไหน?</span></div><br /><div align="center"><span style="font-size:180%;">ชนชั้นคืออะไร?สหภาพแรงงานคืออะไร? ทำไมต้องทำลาย? </span></div><br /><div align="center"><span style="font-size:180%;"></span></div><br /><div align="center"><span style="font-size:180%;">ลงจริง เจ็บจริง สถานที่จริง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน!! ไปกับ </span></div><br /><div align="center"><br /><span style="font-size:180%;color:#990000;">ประกายไฟเสวนา(ภาค Prakaifire in the Move)<br />ตอน สหภาพแรงงาน...ทำไมต้องชนชั้น?<br /></span>13.00 - 17.00 น. @ หน้าโรงงานไทรอัมพ์ สถานที่ชุมนุมของสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ<br />นิคมอุตสาหกรรมบางพลี ซอย 7 สมุทรปราการ<br />วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม 2552</div><br />12:00 เดินทางจาก BTS อ่อนนุช<br />13:00 ถึงที่ชุมนุมหน้าโรงงาน ไทรอัมพ์ฯ<br />13:30 ประกายไฟเสวนา ตอน สหภาพแรงงาน...ทำไมต้องชนชั้น?<br />นำเสวนาโดย<br />ดร.เก่งกิจ กิติเรียงลาภ ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์<br />คุณ ประกีรติ สัตสุด นักศึกษาปริญาเอก Cultural Anthropology,University of Wisconsin Madison<br />คุณ ปาลิดา ประการะโพธิ์ กลุ่มประกายไฟ<br />ดำเนินรายการโดย เทวฤทธิ์ มณีฉาย กลุ่มประกายไฟ<br /><br />15.00 การแสดงดนตรีเพื่อการปลดปล่อย<br /><br />15.30 ลงกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ศึกษาปัญหา ในประเด็น สหภาพแรงงาน ชนชั้นกรรมาชีพ และอื่นๆกับพี่น้องสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ<br /><br />17:00 (เผ่น)ออกเดินทางกลับสู่รถไฟฟ้าอ่อนนุช<br /><br />สอบถามรายละเอียดได้ที่ เบอร์ 086-0473439 (โบว์ ประกายไฟ)หรือ 089-2583641 (บัส ประกายไฟ)bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-10809680888011189802009-07-17T20:43:00.000-07:002009-07-17T20:49:02.751-07:00News & Movements of Triumph International (Thailand) Labour Union<object height="344" width="425"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/OsTQwrinRXw&color1=0xb1b1b1&color2=0xcfcfcf&feature=player_embedded&fs=1"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/OsTQwrinRXw&color1=0xb1b1b1&color2=0xcfcfcf&feature=player_embedded&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" width="425" height="344"></embed></object><br /><br />เกาะติดข่าวสารและความเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อิเตอร์เนชันแนลแห่งประเทศไทยได้ที่<br /><a href="http://triumph-union.blogspot.com/">http://triumph-union.blogspot.com/</a>bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-44644599577200509222009-07-17T20:33:00.000-07:002009-07-17T20:43:41.403-07:00เลิกจ้างไทรอัมพ์ 1,959 คน “แรงงานไม่ Sensitive... ไม่เข้าใจความเป็นนายจ้างจริงหรือ?”<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg87VE0iXWDOhL0m1pGvpJG4QCQCYemBNrLJnYdId-OKwd2YojA6vPACpqk7rMVmXwQXGTMPPY8ixGQS1u092f8c1fOFqvfpUCJRnaYZeN4n677WdIzp3bBa0l003dlF_65wMA2gjOy2l3o/s1600-h/DSC00092.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5359640714601577378" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg87VE0iXWDOhL0m1pGvpJG4QCQCYemBNrLJnYdId-OKwd2YojA6vPACpqk7rMVmXwQXGTMPPY8ixGQS1u092f8c1fOFqvfpUCJRnaYZeN4n677WdIzp3bBa0l003dlF_65wMA2gjOy2l3o/s320/DSC00092.JPG" border="0" /></a><br /><div align="right"><br /><br />เทวฤทธิ์ มณีฉาย<br />กลุ่มประกายไฟ</div><br /><p><br /><br />ความเดิมเมื่อปีที่แล้วที่คนงานบริษัท บอดี้แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กว่า 3,000 คน (ซึ่งทำการผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำให้แก่บรรษัทข้ามชาติจากประเทศเยอรมนี ยี่ห้อไทรอัมพ์ (Triumph), วาเลนเซีย (Valinsere), สล็อกกี้ (Sloggi), อาโม (AMO) และออม (HOM) เป็นต้น) ออกมาเคลื่อนไหวปกป้องสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนล แห่งประเทศไทยของตนเอง ด้วยการเรียกร้องให้รับประธานสหภาพแรงงานของตนเองกลับเข้าทำงาน เนื่องจากถูกนายจ้างฉวยโอกาสเอากระแสทางการเมืองมาเป็นเหตุในการเลิกจ้าง พร้อมทั้งเรียกร้องให้เอาผู้บริหารที่ไม่มีแรงงานสัมพันธ์ที่ดีและมีพฤติกรรมที่ต้องการทำลายสหภาพแรงงานออกไป [1] โดยมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำลายสหภาพแรงงาน การเคลื่อนไหวครั้งนั้นเป็นการผละงานออกมาชุมนุมหน้าโรงงานและเคลื่อนไหวถึง 46 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม ถึง 12 กันยายน 2551<br /><br />มาถึงวันนี้ และแล้วความเคลื่อนไหวก็ปรากฏอีกครั้ง ซึ่งเป็นบทพิสูจน์การดำรงอยู่ของกระบวนการทำลายสหภาพแรงงานดังกล่าว จากการที่นายจ้างได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานของบริษัท บอดี้แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 1,959 คน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนล เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2552 ที่ศูนย์ประชุม BITEC บางนา<br /><br />จากจดหมายบอกเลิกจ้าง (TH-Int-005a v.3) ที่ส่งให้พนักงานแต่ละคนเปิดลุ้นดูในวันดังกล่าวนั้น ทำให้เห็นเหตุผลของการเลิกจ้างคนงานจำนวนมากครั้งนี้ว่า “ต้องการปรับปรุงโครงสร้างกิจการและลดกำลังการเย็บที่โรงงานบางพลีประมาณ 50 % ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างกิจการทั่วโลก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลก ตลอดจนความต้องการโดยรวมของผู้บริโภคและคำสั่งซื้อสินค้าที่ลดลง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ไทรอัมพ์จะต้องดำเนินการเพื่อให้ธุรกิจสามารถยืนหยัดได้ท่ามกลางสถานการณ์ที่รุนแรงนี้” นี่เป็นเหตุผลของการเลิกจ้างแรงงานไทรอัมพ์ครั้งใหญ่ทั้งที่บางพลีและฟิลิปปินส์ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีสหภาพแรงงานที่เข้มแข็งในภูมิภาค มีแรงงานราคาถูก<br /><br />หลังการเลิกจ้างดังกล่าวนางอัมพร นิติสิริ ซึ่งเป็นอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (โปรดฟังอีกครั้งว่า “คุ้มครองแรงงาน”) ก็ออกมากล่าวว่า “นายจ้างมีสิทธิบอกเลิกจ้างลูกจ้างเพื่อพัฒนาองค์กร หรือรักษาสภาพการจ้างของบริษัทไว้” [2] ขณะที่ในวันต่อมา (30 มิ.ย.52) นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทยได้ออกมาพูดถึงการเลิกจ้างแม้จะไม่เกี่ยวกับกรณีไทรอัมพ์โดยตรง แต่ก็มีประเด็นที่น่าสนใจคือทางรองประธานกรรมการหอการค้าได้กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ประกอบการไทยว่า “ทางหอการค้าไทยมีความเป็นห่วงปัญหาการปลดคนงานในขณะนี้ซึ่งจะส่งผลต่ออนาคตหากภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น การฝึกแรงงานใหม่เป็นเรื่องยากและใช้เวลา ดังนั้นรัฐบาล จึงต้องให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าวมากขึ้น เพื่อไม่ให้มีการปลดคนงานหรือหากจำเป็น ก็ควรจะปลดให้น้อยที่สุด โดยขณะนี้คำสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศเริ่มกลับมามากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง” [3]<br /><br />แม้คำกล่าวของทั้ง 2 ท่านจะมองแรงงานเป็นแค่เพียงกำลังแรงงานในองค์กรหรือระบบเศรษฐกิจ ซึ่งมองข้ามความเป็นมนุษย์เหมือนกันก็ตาม แต่คำกล่าวของฝ่ายหลังดูจะมีท่าทีห่วงใยลูกจ้างหรือ “คุ้มครองแรงงาน” และเล็งเห็นถึงปัญหาภาพรวมของสังคมมากกว่าฝ่ายแรกที่มีจุดยืน “คุ้มครองนายจ้างมากกว่า” และมองเฉพาะจุดของปัญหาซึ่งไม่น่าจะเป็นความเห็นของกรมที่มีหน้าที่ดูแลแรงงานในภาพรวมของประเทศ<br /><br />ดังนั้นกรณีการเลิกจ้างนี้จึงมีจุดสังเกตที่น่าสนใจ คือ แสดงถึงความไม่มั่นคงในชีวิตของชนชั้นแรงงาน ซึ่งทำให้แรงงานต้องออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสหภาพแรงงานและความมั่นคงในชีวิตของผู้ใช้แรงงาน ซึ่งตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับคำกล่าวที่ท่านนายกอภิสิทธิ์ ที่ว่า เกิดจากความไม่เข้าใจกัน อาจจะเรียกในทำนองว่าแรงงานไม่ Sensitive... ไม่เข้าใจความเดือดร้อนของนายจ้าง (อย่างเพลงดาวมหาลัย) ดังนั้นผู้เขียนจึงขอยกกรณีศึกษาไทรอัมพ์เพื่อแสดงถึงความไม่มั่นคงในชีวิตของแรงงาน แม้คุณจะอยู่ในบริษัทที่คิดว่ามั่นคง เพื่อพิสูจน์ว่านายจ้างหรือนายทุนมองวิกฤติเป็นโอกาสเสมอ ภายใต้สโลแกน “ต้นทุนต่ำสุด กำไรสูงสุด” ดังนั้น </p><br /><p><br /><strong>ไม่มีสัจจะภายใต้ สโลแกน “ต้นทุนต่ำสุด กำไรสูงสุด”<br /><br /></strong>เมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้วที่ไทรอัมพ์จัดงาน “Triumph Swimwear 2009 Collection “Rhythm of The City” [4] โดยมี เก๋ ชลลดา – ทาทา ยัง ประชันความเซ็กซี่ในชุดว่ายน้ำครั้งแรก และในงานดังกล่าวมีการเปิดประมูลชุดว่ายน้ำประดับคริสตัลสุดหรู ยอดพุ่งถึง 100,000 บาท โดย จักร เฉลิมชัย ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาดและขาย บริษัท ไทรอัมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานว่า “เพื่อเป็นการตอกย้ำว่า ไทรอัมพ์เป็นแบรนด์ชุดว่ายน้ำอันดับหนึ่งของไทย..” และในงานดังกล่าวยังเป็นการเปิดตัวคอลเลคชั่นชุดว่ายน้ำจำนวนมาก ในขณะที่การเลิกจ้าง 1,959 คนในครั้งนี้ ส่วนที่ถูกเลิกจ้าง 100 % เป็นส่วนที่ผลิตชุดว่ายน้ำและในส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่มีสมาชิกสหภาพแรงงานที่เข้มแข็งที่สุด [5] ตามที่ทางสหภาพยืนยัน<br /><br />นอกจากนั้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ทางบริษัทยังยืนยันอีกครั้งโดย จักร เฉลิมชัย กล่าวว่า “บริษัทแม่ในประเทศเยอรมนีมองปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้เป็นโอกาสในการขยายธุรกิจ เพราะบริษัทแม่มีเงินลงทุนสูง และคาดว่าวิกฤตเศรษฐกิจจะ มีระยะเพียง 1-2 ปี ในขณะที่ การลงทุนของบริษัทเป็นการลงทุนระยะยาว 3-5 ปี ดังนั้น ในปีนี้วางแผนขยายสาขาทั้งหมด 25 สาขา ใช้เงินลงทุนประมาณ 45 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจว่าเมื่อปัญหาภายในเรื่องการหยุดงานของพนักงานจบลงแล้ว จะทำให้ยอดขายของบริษัทปีนี้จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง โดยตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 10% จากปกติที่บริษัทจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8-12% นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ทุกๆ 3 เดือน ร่วมกับการจัดโปรโมชันลดราคา การจัดอีเวนต์ การจัดแฟชั่นโชว์ขนาดเล็ก ณ จุดขายต่างๆ ด้วยงบส่งเสริมตลาด 50 ล้านบาท จากงบรวมของบริษัท 70 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา” [6]<br /><br />จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าบริษัทไม่ได้ประสบภาวะวิกฤตทางการเงินเพราะ “บริษัทแม่มีเงินลงทุนสูง” และจากเอกสารจดหมายเลิกจ้างที่กล่าวมาข้างต้นก็ไม่ได้กล่าวถึงการประสบภาวะทางการเงิน เพียงแต่อ้าง “ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลก” ในขณะที่อีกทางหนึ่งบริษัทกลับมองว่า “ยอดขายของบริษัทปีนี้จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง โดยตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 10% จากปกติที่บริษัทจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8-12%” จึงเป็นการยืนยันและแสดงถึงความไร้ซึ่งชอบธรรมจากความไม่มีสัจจะภายใต้ สโลแกน “ต้นทุนต่ำสุด กำไรสูงสุด” เพราะนายทุนจะมองเห็นโอกาสในวิกฤติเสมอ ดังคำที่ทางบริษัทนี้กล่าวไว้จริงๆ ที่ว่า “บริษัทแม่ในประเทศเยอรมนีมองปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้เป็นโอกาส...”<br /><br /><strong>รัฐเป็นกลางจริงหรือ</strong><br /><br />แม้ว่า ชนชั้นนายทุนทั่วโลกจะพยายามสร้างให้รู้สึกว่า รัฐในสังคมเสรีประชาธิปไตยมีความเป็นกลาง เป็นพียงผู้ดูแลกติกา ไม่สังกัดชนชั้นใด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกรณีไทรอัมพ์ฯ และกรณีอื่นๆ ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่ารัฐไม่มีความเป็นกลาง แม้กระทั้งเจ้ากรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน กระทรวงที่แรงงานเรียกร้องมายังมีท่าทีที่คุ้มครองนายจ้างมากกว่า<br /><br />นอกจากนี้กรณีบริษัทไทรอัมพ์นั้นยังได้รับการสนับสนุนในการย้ายฐานการผลิตไปในที่ๆ มีแรงงานราคาถูกและไม่มีสหภาพแรงงานจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เมื่อปีที่ผ่านมา ด้วยการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนแก่บริษัทบอดี้ แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่า เป็นผู้ผลิตชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำ ที่มีกำลังผลิตเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย ภายใต้ แบรนด์ “ไทรอัมพ์” และเป็นผู้ผลิตใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียเพื่อขยายการลงทุนผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในประเทศไทยเพิ่มเติม เช่น ชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำ ผ้าพันคอ เป็นต้น โดยมีกำลังการผลิตปีละ 2,000,000 ชิ้น เงินลงทุนทั้งสิ้น 75.5 ล้านบาท ตั้งโรงงานอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ [7] ทำให้สามารถขยายกำลังการผลิตด้วยการซื้อที่ดินและสร้างโรงงานที่ได้มาตรฐานรองรับการผลิตได้เต็มที่ได้ถึง 2,000 คน ในปีที่ผ่านมา โดยในปัจจุปันก็มีคนงานถึง 1,000 กว่าคน [8]<br /><br />ทั้งๆ ที่เมื่อพิจารณาจากนโยบายของ BOI แล้วจะพบว่าไม่มีนโยบายส่งเสริมธุรกิจดังกล่าว โดยนโยบายของ BOI [9] ประกอบด้วย<br /><br />1. นโยบายส่งเสริม สนับสนุนอุตสาหกรรมการเกษตรไทย โดย BOI เพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีพิเศษเพื่อส่งเสริม สนับสนุนและเสริมสร้างพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรไทยอย่างครบวงจร<br /><br />2. นโยบายส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาทักษะ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยใช้ STI เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ BOI ปรับนโยบายส่งสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาทักษะ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (Skill Technology & Innovation-STI) โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีแก่โครงการที่มีการพัฒนาด้าน STI<br /><br />3. แนวทางการส่งเสริมกิจการซอฟต์แวร์ เพื่อปรับประเภทกิจการซอฟต์แวร์ใหม่โดยเน้นการให้การส่งเสริมเป็นกลุ่มธุรกิจ แทนที่จะเป็นลักษณะการทำงาน (Activity Group) เพื่อดึงดูดกลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาซอฟต์แวร์ของประเทศในอนาคต เพิ่มสิทธิประโยชน์และยกเลิกเงื่อนไขที่ไม่สอดคล้องกับลักษณะธุรกิจ<br /><br />4. สุดท้ายนโยบายส่งเสริม สนับสนุน SMEs ไทย โดย BOI ปรับบทบาทการส่งเสริมการลงทุนแก่ SMEs ไทย ตามยุทธศาสตร์การพัฒนา SMEs ของรัฐบาล เพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีและลดเงื่อนไขให้เอื้อแก่กิจการเกษตรแปรรูป และอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์<br /><br />สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนที่ยืนยันถึงความไม่เป็นกลางของรัฐในเชิงพฤติกรรมผ่านตัวแสดงจากเจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้มีอำนาจและในเชิงโครงสร้างและนโยบาย ที่ส่งเสริมให้เกิดการย้ายฐานการผลิตไปยังแหล่งแรงงานราคาถูก ไม่มีสหภาพแรงงาน (สวรรค์ของนักลงทุน) ขณะเดียวกันก็หยิบยื่นโอกาสในการเลิกจ้างแรงงานอายุมาก แรงงานที่ต่อสู้เพื่อได้รับสวัสดิการที่เพิ่มขึ้น ทำลายสหภาพแรงงาน ทั้งๆ ที่เงินสนับสนุนนั้นมาจากภาษีของประชาชนโดยที่นายทุนที่ได้รับการส่งเสริมก็มักจะได้รับการลดหย่อนหรือยกเว้นภาษี [10] ด้วยซ้ำไป ตามนโยบายสิทธิและประโยชน์ด้านภาษีอากรของ BOI<br /><br />อีกทั้งการเลิกจ้างถึงเกือบ 2 พันคนกรณีไทรอัมพ์และที่อื่นๆ ที่ยังมีในขณะนี้ถือเป็นการพิสูจน์ความล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าของรัฐบาลไทยที่นำโดยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มักจะชูภาพของการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจรุ่นใหม่ พร้อมกับนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ของพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐบาลดังกล่าวยังแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 30 ธันวาคม 2551 ในส่วนของมาตรการเร่งด่วนระยะ 1 ปี ในเรื่องของการรักษาและเพิ่มรายได้ของประชาชน ได้เสนอให้ร่วมมือกับภาคเอกชนในการดำเนินมาตรการชะลอการเลิกจ้างและป้องกันการขยายตัวของการเลิกจ้างในภาคอุตสาหกรรมและบริการ ทั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดย่อม โดยใช้มาตรการจูงใจเพื่อลดภาระของภาคเอกชนในการชะลอการเลิกจ้างงาน [11] แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นบทพิสูจน์หนึ่งที่สำคัญถึงความไร้น้ำยาและความไม่เป็นกลางอย่างถึงที่สุดของรัฐบาลชุดนี้ในรอบครึ่งปีที่มาบริหารประเทศ<br /><br /><strong>มาตรฐานสากลเพียงเสือกระดาษหรือตรายาง</strong><br /><br />จากกรณีศึกษาไทรอัมพ์ฯ ซึ่งเป็นบรรษัทข้ามชาติจากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นสมาชิก ขององค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1961 ประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นประเทศอุตสาหกรรมที่พัฒนาแล้วรวม 30 ประเทศ องค์กรดังกล่าวมีหลักปฏิบัติที่เรียกว่า OECD Guidelines for MNEs เพื่อให้ธุรกิจข้ามชาติของประเทศสมาชิกใช้เป็นแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของ OECD ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การจ้างงาน และยกระดับมาตรฐานการครองชีพของประเทศสมาชิก ขณะเดียวกันก็มีนโยบายรักษาเสถียรภาพทางการเงินของโลก เพื่อให้เอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก จึงมีการกำหนดพฤติกรรมอันพึงประสงค์ 8 ประการ ที่ธุรกิจข้ามชาติควรยึดถือเป็นหลักปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจ [12] ซึ่ง 2 ใน 8 ข้อนั้นคือ<br /><br />การเปิดเผยข้อมูล (Disclosure): ธุรกิจควรเปิดเผยข้อมูลที่เชื่อถือได้อย่างสม่ำเสมอ อาทิ โครงสร้างองค์กร สถานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและสังคมบริเวณโดยรอบองค์กร<br /><br />การจ้างงานและแรงงานสัมพันธ์ (Employment and Industrial Relations): ธุรกิจควรเคารพสิทธิของลูกจ้าง ปฏิบัติต่อลูกจ้างด้วยความเท่าเทียมกัน ให้ข้อมูลผลการดำเนินงานที่แท้จริงของธุรกิจแก่ลูกจ้างและผู้แทน รวมทั้งดูแลสุขภาพ และให้โอกาสแก่ลูกจ้างในการพัฒนาทักษะอย่างเหมาะสม เป็นต้น<br /><br />นอกจากนี้ระบบเศรษฐกิจของประเทศเยอรมนียังถูกควบคุมด้วยวิธีการร่วมมือกัน นั่นหมายความว่า ยุทธศาสตร์ของสถานประกอบการไม่ได้ถูกกำหนดโดยผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเพียงด้านเดียว แต่ว่าจากผลประโยชน์จำนวนหนึ่งของตัวแทนผลประโยชน์ทางภาคประชาสังคม สถานประกอบการจะถูกควบคุมโดยคณะกรรมการบริหาร ที่นอกจากตัวแทนจากธนาคารแล้ว ยังมีตัวแทนจากฝ่ายผู้ประกอบการ ผู้แทนจากฝ่ายลูกจ้างและตัวละครจากภาครัฐที่มีบทบาทรวมอยู่ด้วย [13] แต่การปรับปรุงโครงสร้างค่าใช้จ่ายระยะยาวของไทรอัมพ์ก็ได้รับการยืนยันจากสหภาพแรงงานแล้วว่าไม่มีการปรึกษาหารือด้วยวิธีการร่วมมือกันและการเปิดเผยข้อมูลใดๆ จากทางบริษัท<br /><br />เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นเสือกระดาษหรือตรายางของมาตรฐานสากลที่ไม่มีผลบังคับใช้จริง นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตที่ทางสหภาพตั้งไว้คือทำไมเป็นแผนการปรับโครงสร้างทั่วโลก ขณะที่ในไทยมีแต่ที่โรงงานในบางพลี ทำไมโรงงานไทรอัมพ์ที่นครสวรรค์กลับมีการเตรียมขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น โดยการสนับสนุนจาก BOI และทำไมต้องเป็นที่ฟิลิปปินส์กับไทยที่มีสหภาพแรงงานที่เข้มแข็ง และคนที่ถูกเลิกจ้างส่วนใหญ่เป็นคนงานที่เข้าร่วมต่อสู้กรณี น.ส.จิตรา คชเดช อดีตประธานสหภาพแรงงานฯ ที่โดนเลิกจ้างไปครั้งที่แล้ว [14]<br /><br />รวมถึงทำไมบอกเลิกจ้าง 50 % แต่จากหนังสือคัดค้านการเลิกจ้างกลับระบุให้เห็นว่า คนงานที่ถูกเลิกจ้างส่วนใหญ่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานฯ เป็นอนุกรรมการและกรรมการสหภาพแรงงานฯ ถึง 13 คนจากกรรมการสหภาพแรงงานทั้งหมด 19 คน ในการเลิกจ้างครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับส่วนของกรรมการสหภาพที่ถูกเลิกจ้างในสัดส่วนเกือบ 70 %<br /><br />รวมถึงเมื่อพิจารณาจากแถลงการณ์ในการชุมนุมประท้วงและเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงานไทรอัมพ์เมื่อปีที่แล้วจะพบข้อน่าสนใจเกี่ยวกับช่วงยื่นข้อเรียกร้องขอปรับสภาพการจ้างของทางสหภาพก่อนที่จะมีการชุมนุมคัดค้านการเลิกจ้างประธานสหภาพ คือ “ช่วงระหว่างการยื่นข้อเรียกร้องของสหภาพฯ เพื่อขอปรับสภาพการจ้างครั้งที่ผ่านมา ทางฝ่ายผู้บริหารฯ ได้เสนอให้ปรับค่าจ้างตามความต้องการของบริษัทฯ และให้พนักงานรวมทั้งผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพฯ ลงมติรับข้อเสนอของทางบริษัทฯ เพื่อทำให้ข้อเรียกร้องของทางสหภาพฯ ตกไป โดยมีการขู่ว่าหากไม่รับข้อเสนอตามที่ทางบริษัทฯ เสนอ ทางบริษัทแม่ที่เยอรมนีอาจจะปิดบริษัทที่เมืองไทยแล้วจ้างทำการผลิตแบบเหมาช่วง (Sub-contract) แทน แต่ทางสหภาพฯ ไม่ยินยอมให้กระทำการดังกล่าวเนื่องจากเห็นว่าเป็นกลวิธีของผู้บริหารที่พยายามจะลดบทบาทและความสำคัญของสหภาพแรงงาน ด้วยการสร้างบรรทัดฐานใหม่ในอนาคตว่าต่อไปบริษัทจะเป็นผู้เสนอการปรับสภาพการจ้างงานเองแล้วให้พนักงานลงมติรับรอง แทนที่ข้อเรียกร้องนั้นจะมาจากความต้องการของพนักงานอย่างแท้จริง” แสดงให้เห็นว่าทางบริษัทมีแผนที่จะเปลี่ยนรูปแบบการจ้างงาน พร้อมทั้งลดทอนบทบาทและอำนาจการต่อรองของสหภาพแรงงานมาก่อนหน้านี้แล้วด้วยซ้ำไป<br /><br />ดังนั้นหากบริษัทมีความจำเป็นในการปรับโครงสร้างจริงก็ควรปรึกษาหารือกับสหภาพแรงงาน พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลให้กับพนักงาน เพื่อการปรับปรุงองค์กรให้มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างประสิทธิผลตามที่บริษัทกล่าวอ้างโดยวิธีการที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่ทำลายสหภาพแรงงานด้วยการเลิกจ้างคนงาน 1,959 คน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้บริษัทก็ไม่ได้มีมาตราการอื่นที่จะสร้างประสิทธิภาพด้วยการปรับปรุงโครงสร้างค่าใช้จ่ายอย่างชัดเจนแต่อย่างใด [15] ตัวอย่างของการปรับปรุงโครงสร้างที่สร้างสรรค์ เช่น โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของรัฐบาลไทยที่เคยทำมาเพื่อปฏิรูประบบราชาการ โดยปรับขนาดกำลังคนให้เหมาะสมสอดคล้องกับการพัฒนาระบบราชการ ภายใต้หลักความสมัครใจและความประสงค์ร่วมกันของข้าราชการและราชการ โดยคำนึงถึงความเป็นธรรมของข้าราชการและประโยชน์ของทางราชการ<br /><br />นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำกันในประเทศกำลังพัฒนา แต่หากทางฝ่ายนายจ้างที่ได้รับการส่งเสริมโดยรัฐไม่ยอมเลือกทางแก้ปัญหาในรูปแบบที่สร้างสรรค์ ก็คงหนีไม่พ้นเจตนาตามที่สหภาพกังวลว่าจะเป็นการล้มสหภาพแรงงาน พร้อมทั้งย้ายฐานการผลิตไปยังแหล่งที่มีแรงงานราคาถูกและเปลี่ยนรูปแบบการผลิตแบบเหมาช่วง (Sub-contract) แทน เป็นแน่<br /><br /><strong>สรุป</strong> </p><br /><p><br />จากกรณีการเลิกจ้างของไทรอัมพ์นี้แสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นคงในชีวิตของแรงงานทุกๆ คนในระบบทุนนิยมเสรี แม้คุณจะอยู่ในบริษัทที่มั่นคงใหญ่โตแค่ไหน เพราะความมั่นคงของต้นทุนต่ำสุด กำไรสูงสุดของนายทุนนั้นสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด </p><br /><p><br />ผมเคยมีโอกาสคุยกับพนักงานที่ถูกเลิกจ้างดังกล่าวหลายคนก็ไม่เคยคิดว่าจะถูกเลิกจ้าง (จึงมีแนวโน้มซื้อของเงินผ่อนและเป็นหนี้ มีเครดิตว่างั้น) นอกจากนี้กรณีของไทรอัมพ์ยังเสดงให้เห็นว่า รัฐในความเป็นจริงแล้วไม่มีความเป็นกลาง มาตรฐานสากลอันสวยหรูเป็นเพียงเสือกระดาษหรือตรายางเท่านั้น ไม่มีสัจจะและความสร้างสรรค์ที่แท้จริงภายใต้ สโลแกน “ต้นทุนต่ำสุด กำไรสูงสุด” นายทุนมักมองวิกฤติเป็นโอกาสในการเพิ่มอัตราการขูดรีดมูลค่าส่วนเกินเสมอ ดังนั้นการเคลื่อนไหวของแรงงานจึงไม่ใช้เพราะ “แรงงานไม่ Sensitive...ไม่เข้าใจความเป็นนายจ้าง” แต่เป็นเพราะเขา Sensitive และเข้าใจความเป็นนายจ้าง สังคมไทยต่างหากที่ไม่ Sensitive และไม่เข้าใจความเป็นแรงงาน กลับถูกรัฐใช้กระแสหมีแพนด้ากลบเกลื่อนความผิดพลาดของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาทางเศรษฐกิจทั้งระบบที่กระทบกับคนทุกคน ไม่ใช่เฉพาะแรงงานที่ถูกเลิกจ้างจำนวนมากขณะนี้เท่านั้น<br /><br />เอกสารอ้างอิง<br />[1] สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ . 2551. แถลงการณ์กรณีการชุมนุมต่อต้านการล้มสหภาพไทรอัมพ์<br />[2] กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ . ไทรอัมพ์ปลดพนง. 1.9 พันคน ชดเชยตามกม. วันที่ 29 มิถุนายน 2552<br />[3] กรุงเทพธุรกิจออนไลน์. หอการค้าวอนรัฐดูแลสภาพคล่องชี้อออเดอร์หาย20% วันที่ 30 มิถุนายน 2552 http://www.bangkokbiznews.com<br />[4] ไทยพีอาร์ ดอทเน็ต . เก๋ ชลลดา – ทาทา ยัง ประชันความเซ็กซี่ในชุดว่ายน้ำครั้งแรก!! เปิดประมูลชุดว่ายน้ำประดับคริสตัลสุดหรู วันที่ 11 มีนาคม 2552 ที่มา http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx?newsid=2A66B2A83413D38DDF2381A68F069390&query=IlRyaXVtcGggU3dpbXdlYXIgMjAwOSI=<br />[5] ประชาไท. 2552. ไทรอัมพ์เลิกจ้าง พนง. 1,930 คน คนงานจี้ชี้แจงขาดทุนจริงหรือไม่ 2009-06-29 ที่มา http://www.prachatai.com/journal/2009/06/24894<br />[6] โพสต์ทูเดย์ . ไทรอัมพ์เร่งผุดสาขากลางเมือง วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2552 ที่มาhttp://www.posttoday.com/business.php?id=38726<br />[7] หนังสือพิมพ์แนวหน้า. บอร์ดบีโอไออนุมัติ ไทรอัมพ์ทุ่ม75ล้าน ขยายฐานการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป<br />ฉบับวัน อังคารที่ 8 กรกฎาคม 2008<br />[8] สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ . 2552. หนังสือคัดค้านการเลิกจ้างสมาชิกสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ และคนงานบริษัทบอดี้แฟชั่น(ประเทศไทย)จำกัด. 3 กรกฎาคม 2552<br />[9] คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน. นโยบายของบีโอไอ ที่มา http://www.boi.go.th/thai/about/boi_policies.asp<br />[10] คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน. สิทธิและประโยชน์ด้านภาษีอากร ที่มา http://www.boi.go.th/thai/about/basic_incentive.asp<br />[11] มติชนออนไลน์. นโยบายรัฐบาล"อภิสิทธิ์ " ว่าด้วยมาตรการเร่งด่วน 1 ปี. วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1230614749<br />[12] Connection Co.,Ltd. OECD Guidelines for Multinational Enterprises ที่มา http://www.connections.co.th/marketing/page_bx.php?cno=86&cid=18<br />[13] โทมัส ไมเออร์. อนาคตสังคมประชาธิปไตย. กรุงเทพฯ :มูลนิธิฟรีดริค เอแบร์ท, หน้า 320-321<br />[14] กรมประชาสัมพันธ์ . คนงานไทรอัมพ์ไม่เชื่อเลิกจ้าง1.9พันคนเพราะขาดทุน http://www.atnnonline.com/atnnonline/index.php/economics/709-19.html<br />[15] อ้างแล้ว, สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ . 2552<br /><br />ที่มา <a href="http://www.prachatai.com/journal/2009/07/25008">ประชาไท</a></p>bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-69778712220350763642009-06-17T11:51:00.000-07:002009-06-17T12:00:34.374-07:00ร่วมแลกเปลี่ยนไปกับ ประกายไฟเสวนา หัวข้อ "ค่ายสร้างคน คนสร้างอะไร"<div align="center"><strong>ร่วมแลกเปลี่ยนไปกับ ประกายไฟเสวนา หัวข้อ "ค่ายสร้างคน คนสร้างอะไร"<br />บ่ายวันอาทิตย์ที่ 28 นี้ ที่มูลนิธิ 14 ตุลา(ตึกหน้าชั้นใต้ดิน)</strong></div><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjO4oYD0Bc5HeCN4fA5b6rZ6XhX88LBD0fmUIF8_9x-1XwzozHt3itox8hR_xkKpGCJLP-Dg4hh6dSs2Qaxtz57yEfQW7a-P8h5ivb1SsMkRGE50gh1HiBJlpnjhDQoRV1uvbw9qkBkA7W-/s1600-h/à¸à¹à¸²à¸¢à¸ªà¸£à¹à¸²à¸[1]...jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5348371373910179266" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 226px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjO4oYD0Bc5HeCN4fA5b6rZ6XhX88LBD0fmUIF8_9x-1XwzozHt3itox8hR_xkKpGCJLP-Dg4hh6dSs2Qaxtz57yEfQW7a-P8h5ivb1SsMkRGE50gh1HiBJlpnjhDQoRV1uvbw9qkBkA7W-/s320/%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%5B1%5D...jpg" border="0" /> <p align="center"></a><br /><strong>เค้าโครงประกายไฟเสวนา<br />หัวข้อ "ค่ายสร้างคน คนสร้างอะไร"<br />12.00-16.00 น. วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2552<br />ณ.ห้องประชุม(ตึกหน้าชั้นใต้ดิน) มูลนิธิ 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ราชดำเนิน กรุงเทพฯ</strong><br /><br /></p><p>“ค่าย”ถือเป็นกิจกรรมยอดนิยมของนักเรียนนักศึกษา นักกิจกรรมหรือนักเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ทุกฝ่าย ทุกอุดมการณ์ใช้เพื่อจัดตั้ง สร้างกระบวนการเรียนรู้ กล่อมเกลา หรือเรียกสั่นๆว่าการ "สร้างคน"ขึ้นมาเพื่อทำกิจกรรมหรือเคลื่อนไหวอื่นๆต่อไป </p><p><br />หากย้อนกลับไปคงยากในการสืบว่ากิจกรรมการสร้างกระบวนการเรียนรู้ในรูปแบบ"ค่าย"นั้นมีจุดเริ่มต้นทั้งในประเทศและสากลมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ถ้าเป็นค่ายที่เป็นกิจกรรมของนักศึกษา โดยเฉพาะของธรรมศาสตร์น่าจะเป็นเริ่มจากค่ายที่นักศึกษาธรรมศาสตร์จัดร่วมกับยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยเมื่อปี 2501 แล้วกิจกรรมของนักศึกษาที่เรียกว่า "ค่าย"ก็ได้เป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน แน่นอนมีหลากหลายอุดมการณ์ ซึ่งไปค้นในคำค้นจาก Google โดยใช้คว่า "นักศึกษา ค่าย"แล้ว จะได้ประมาณ 1,490,000 คำค้น และก็แน่นอนอีกเช่นกันที่ในล้านกว่านั้นจะประกอบไปด้วยหลากหลายอุดมการณ์ อย่างไรก็ตามในนั้นก็ย่อมมีค่ายที่มุ่งหวังที่จะหล่อหลอมให้คนที่ผ่านค่ายมาแล้ว"สร้างอะไร"ให้กับสังคมตามอุดมการณ์ของแต่ละค่าย แต่ถึงกระนั้นสังคมไทยปัจจุบันก็ยังมีปัญหามากมาย </p><p><br />ด้วยเหตุนี้ทำให้เกิดข้อสังสัยต่อกิจกรรมดังกล่าวว่าจะเป็นคำตอบของปัญหาหรือไม่ จึงนำมาซึ่งการสรุปบทเรียนร่วมกันของคนที่ทำกิจกรรมต่างค่ายต่างช่วงเวลากัน ด้วยการเสวนาเพื่อสรุปบทเรียนในหัวข้อ "ค่ายสร้างคน คนสร้างอะไร" อันจะนำไปสู่การทบทวนและปรับปรุงกิจกรรมดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสามารถตอบโจทย์ได้มากขึ้นต่อไป </p><p><br /><strong>วัตถุประสงค์<br /></strong>1. เพื่อให้เกิดการสรุปบทเรียนการทำกิจกรรมค่ายต่างๆของคนต่างรุ่น ต่างค่าย ร่วมกัน<br />2. เพื่อหาแนวทางการทำกิจกรรมค่ายหรือกิจกรรมอื่นๆให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลร่วมกัน </p><p><br /><strong>กำหนดการกิจกรรม ประกายไฟเสวนาหัวข้อ "ค่ายสร้างคน คนสร้างอะไร"</strong> </p><p><br />12.00-13.00 น. ลงทะเบียน </p><p><br />13.00-16.00 น. <strong>ประกายไฟเสวนาหัวข้อ "ค่ายสร้างคน คนสร้างอะไร" </strong></p><p><strong>นำเสวนาโดย</strong> </p><p>คุณสมชาย มีเหม็ง อดีตนักศึกษานักกิจกรรม 14 และ 6 ตุลา<br />คุณเมธา มาสขาว อดีตเลขาธิการ สนนท. ปี 44<br />คุณวีรนันท์ ฮวดศรี กลุ่มบุหงาศานติ นักกิจกรรมรุ่นใหม่จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง </p><p><strong>ดำเนินรายการโดย</strong> </p><p>คุณรัชพงศ์ โอชาพงศ์ กลุ่มประกายไฟ<br /></p><br /><em>ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ</em><br /><br /><strong>สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่<br /></strong>E - mail <a href="mailto:prakaifire@gmail.com">prakaifire@gmail.com</a> หรือ <a href="mailto:bus4530219@hotmail.com">bus4530219@hotmail.com</a><br />รัชพงศ์ โอชาพงศ์ (เฉื่อย) 084-6601664<br />หรือ เทวฤทธิ์ มณีฉาย (บัส) 089-2583641<br /><br />http://blogazine.prachatai.com/user/iskra/<br />http://prakaifire.blogspot.com/<br />http://prakaifiregroup.hi5.com/bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-54980755711211254472009-05-27T04:06:00.001-07:002009-05-27T04:22:00.217-07:00ประกายไฟเสวนา ตอน “รัฐธรรมนูญที่ดีควรเป็นอย่างไร”<strong>เสวนาเชิงปฏิบัติการ</strong><br /><br /><br /><br /><strong>“รัฐธรรมนูญที่ดีควรเป็นอย่างไร”<br /></strong>วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.00-16.00 น.<br />ณ ห้องประชุมมูลนิธิ 14 ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน<br /><br />หลักการ<br /><br />นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 เป็นต้นมา ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญถึง 18 ฉบับ ลักษณะร่วมที่สำคัญของรัฐธรรมนูญแทบทุกฉบับก็คือ หลักการ เป้าหมาย และกระบวนการร่างที่จำกัดผูกขาดและตอบสนองผลประโยชน์เฉพาะกับบุคคลไม่กี่กลุ่ม ซึ่งเป็นชนชั้นนายทุน อภิสิทธิ์ชน คนร่ำรวย ซึ่งเป็นคนส่วนน้อยของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้ความสำคัญกับบทบาทของนักวิชาการหอคอยงาช้าง ทหาร นักกฎหมาย และข้าราชการ ซึ่งไม่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับคนธรรมดาๆซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ในสังคม ผลก็คือ รัฐธรรมนูญแทบทุกฉบับล้วนแล้วแต่พูดถึงแต่หลักการของการบริหารจัดการสถาบันทางการเมืองของรัฐเท่านั้น โดยไม่ได้แตะต้องหรือแก้ไขปัญหาใหญ่ของสังคมไทย นั่นคือ ความไม่เท่าเทียม การกดขี่ขูดรีด และการไม่มีความมั่นคงในชีวิตของพี่น้องเกษตรกรและผู้ใช้แรงงานซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศอย่างแท้จริง<br />การที่สังคมไทยมีรัฐธรรมนูญมากถึง 18 ฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่มีที่มาจากการทำรัฐประหารและมาจากการร่างกันขึ้นของคนไม่กี่คนนั้น เป็นภาพสะท้อนอย่างดีว่า รัฐธรรมนูญไม่สามารถและไม่มีวันจะทำหน้าที่เป็นกติกาหรือหลักการสูงสุดของการปกครองดูแลสังคมอย่างที่ตั้งใจไว้ ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะนี้ รัฐบาลชุดปัจจุบันกำลังจะดำเนินการปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพวกเราในฐานะที่เป็นองค์กรภาคประชาชน ไม่ควรจะไว้วางใจให้รัฐบาล เนติบริกร รวมไปถึงนักวิชาการหอคอยงาช้างจำนวนหนึ่งทำหน้าที่กำหนดทิศทางการพัฒนาประชาธิปไตยแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งแน่นอนว่า รัฐธรรมนูญหรือระบอบการเมืองการปกครองที่มาจากปลายปากกาของคนเหล่านี้คงจะไม่สอดคล้องกับการสร้างรัฐสวัสดิการ ประชาธิปไตยที่กินได้ การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งเป็นความต้องการของพวกเราเป็นแน่แท้<br />ดังนั้น นี่จึงเป็นหน้าที่ที่สำคัญของพวกเราในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของ “การเมืองภาคประชาชน” ที่จะทำหน้าที่กำหนดวิถีชีวิตและรูปแบบการปกครองของพวกเราเอง กลุ่มประกายไฟ จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมการเสวนาเชิงปฏิบัติการร่วมกับตัวแทนพี่น้องเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน และตัวแทนของนักศึกษาคนรุ่นใหม่ ที่จะมาแลกเปลี่ยนเพื่อหาคำตอบร่วมกันว่า “รัฐธรรมนูญที่ดี ที่ตอบสนองความต้องการของพวกเรา และที่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ควรมีหน้าตาอย่างไร”<br /><br /><br /><br /><br /><br /><div align="center"><strong>กำหนดการ</strong><br />เสวนาเชิงปฏิบัติการ “รัฐธรรมนูญที่ดีควรเป็นอย่างไร”<br />วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.00-16.00 น.<br />ณ ห้องประชุมมูลนิธิ 14 ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน<br /><br /><br />12.00 – 13.00 น. ลงทะเบียน<br />13.00 – 16.00 น. เสวนาเชิงปฏิบัติการหัวข้อ “รัฐธรรมนูญที่ดีควรเป็นอย่างไร”<br />นำเสนอโดย<br />บุญรอด สายวงศ์ สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ<br />เจียระไน นะแส กลุ่มสะพานสูง ธรรมศาสตร์<br />แบงค์ งามอรุณโชติ กลุ่มแรงคิด<br />ดำเนินรายการโดย<br />ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กลุ่มประกายไฟ </div><div align="center"><br /><br /><br /></div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgKbe5thKyykQTuzKLuxPrC-wS8YbeinXIIXfsG57smE5NkKVWW92I3U3MoDCuBbsXKENaQZ-3A8LlZGlHQOyrVwvQivAnGX29zyKMOVLtHJZPyYWoyyoT55mpvjd8gFY5KQxJRENMonLD0/s1600-h/24052009642.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5340460255735721314" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgKbe5thKyykQTuzKLuxPrC-wS8YbeinXIIXfsG57smE5NkKVWW92I3U3MoDCuBbsXKENaQZ-3A8LlZGlHQOyrVwvQivAnGX29zyKMOVLtHJZPyYWoyyoT55mpvjd8gFY5KQxJRENMonLD0/s320/24052009642.jpg" border="0" /> <p align="center"></a><em><div align="center">บรรยากาศ ประกายไฟเสวนา ตอน “รัฐธรรมนูญที่ดีควรเป็นอย่างไร”<br /></div></em><p align="center"></p><p align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjsSYdDZScRdzD1dPatXNlvhnlzjuNGQMGtkadhzQNhMJf_fap_9Uy5YlLPINyvAYF0509ToWzMlBbrpECQngk-3EHBcqeUlS6SDAnzJOhpP4nNrT6qIbB2ayp_3-74n1p_uMaXYisuS62J/s1600-h/24052009645.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5340460262815900786" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjsSYdDZScRdzD1dPatXNlvhnlzjuNGQMGtkadhzQNhMJf_fap_9Uy5YlLPINyvAYF0509ToWzMlBbrpECQngk-3EHBcqeUlS6SDAnzJOhpP4nNrT6qIbB2ayp_3-74n1p_uMaXYisuS62J/s320/24052009645.jpg" border="0" /></a> <em>วิทยากรจากขวามือไปซ้ายมือ คุณเจียระไน นะแส กลุ่มสะพานสูง ธรรมศาสตร์ คุณษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กลุ่มประกายไฟ </em></p><p align="center"><em>คุณบุญรอด สายวงศ์ สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ และคุณแบงค์ งามอรุณโชติ กลุ่มแรงคิด</em><br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj44FAURJsceuNpY4lL9j38BNdjvqYcirusCH0VGWBq6zJg5vTAuwn00enllmD0vnjx4Xxp_x-jroRmUdK741cUsKe53tc3W6ACbXdSZJhFBHFxGQBk-jmM6tO1w_Qkc5_AlHGLzR6y1K_D/s1600-h/24052009644.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5340460258653394258" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj44FAURJsceuNpY4lL9j38BNdjvqYcirusCH0VGWBq6zJg5vTAuwn00enllmD0vnjx4Xxp_x-jroRmUdK741cUsKe53tc3W6ACbXdSZJhFBHFxGQBk-jmM6tO1w_Qkc5_AlHGLzR6y1K_D/s320/24052009644.jpg" border="0" /></a>ผู้เข้าร่วมงานประกายไฟเสวนา นักศึกษา แรงงาน นักกิจกรรมและประชาชนทั่วไป ประมาณ 60 ท่าน </p><p align="center">พร้อมถ่ายทอดสดผ่านทางเวปนิวสกายไทยแลนด์ </p>bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-16782992792820539572009-05-07T11:19:00.001-07:002009-05-07T11:21:53.699-07:00แถลงการณ์ของกลุ่มผู้ใช้แรงงานและกลุ่มพันธมิตรนิสิตนักศึกษา ต่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้<a href="http://technorati.com/tag/" rel="tag"></a>(โทษทีครับเอาของเก่ามาลง พอดีจะรวบรวมกิจกรรมของกลุ่มครับเลยต้องเอามาลง)<br /><br /><br />1 กันยายน 2551<br /><br />จากเหตุการณ์การชุมนุมยืดเยื้อและความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการปะทะกันระหว่างรัฐบาลพรรคพลังประชาชน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในช่วงเวลาที่ผ่านมาอันเป็นความขัดแย้งทางการเมืองของฝ่ายชนชั้นนายทุน มิใช่การต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของชนชั้นล่างอย่างแท้จริง กลุ่มผู้ใช้แรงงานและกลุ่มพันธมิตรนิสิตนักศึกษาที่ลงนามในแถลงการณ์ฉบับนี้มีความคิดเห็นและข้อเรียกร้องต่อสังคม ดังต่อไปนี้<br />1. เราคัดค้านการใช้ความรุนแรงโดยรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ตำรวจทหารในการปราบปรามผู้ชุมนุมทางการเมือง และการประกาศสภาวะฉุกเฉินของฝ่ายรัฐบาล รวมทั้งการเรียกร้องยั่วยุให้รัฐใช้ความรุนแรงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เช่น การเรียกร้องให้ทหารซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชนชั้นปกครองเข้ามาทำรัฐประหาร<br />2. เราต้องไม่ประณามวิธีการต่อสู้ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือวิธีการที่ไม่ใช่ "สันติวิธี" ไม่ว่ากลุ่มนั้นๆจะมีจุดยืนทางการเมืองแบบใดก็ตามหากเป็นการกระทำเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้กับรัฐ เช่น การชุมนุมแบบปิดถนน การยึดสถานที่ราชการ และการนัดหยุดงานแบบผิดกฎหมาย ซึ่งวิธีการทั้งหมดนี้เป็นวิธีการต่อสู้ทางการเมืองของชนชั้นล่างทั้งในประเทศและในระดับสากลในการต่อสู้กับความยุติธรรมปลอมๆที่สร้างขึ้นโดยระบบทุนนิยมและรัฐตลอดมา<br />3. เราคัดค้านแนวทาง "การเมืองใหม่" ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เสนอให้ตัวแทนของประชาชนในรัฐสภามาจากการแต่งตั้ง หรือที่เรียกว่า "70: 30" ซึ่งข้อเสนอเช่นนี้เป็นข้อเสนอที่จำกัดสิทธิในทางการเมืองของชนชั้นล่าง เราเสนอว่า ทางออกจากปัญหาดังกล่าวต้องใช้วิธีการปฏิรูปและพัฒนาสถาบันทางการเมืองที่เป็นไปเพื่อสนับสนุนและเพิ่มอำนาจให้แก่ประชาชนมากกว่าที่จะเป็นการถอยหลังเข้าคลองไปสู่ระบอบเผด็จการเช่นข้อเสนอของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย<br />4.อันเนื่องมาจากการเมืองทั้ง 2 ขั้วในปัจจุบัน คือ รัฐบาลพรรคพลังประชาชน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่างแสดงจุดยืนทางการเมืองแบบชาตินิยมและอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว ซึ่งจุดยืนทางการเมืองเช่นนี้ไม่ใช่ข้อเสนอหรือแนวทางการเมืองที่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์จริงของคนชั้นล่าง ทั้งที่เป็นกรรมกร เกษตรกร คนจนเมือง ฯลฯ เราในฐานะกลุ่มผู้ใช้แรงงานและกลุ่มพันธมิตรนิสิตนักศึกษาที่ลงนามในแถลงการณ์นี้เสนอให้มีการพูดถึงการปฏิรูปการเมืองและสังคมโดยมีการเก็บภาษีทางตรงในอัตราก้าวหน้า ภาษีมรดก ภาษีที่ดินจากคนร่ำรวย เพื่อการสร้างรัฐสวัสดิการที่ดูแลชีวิตของประชาชนตั้งแต่เกิดจนตายอย่างเป็นรูปธรรม<br /><br /><br /><div align="right">กลุ่มประกายไฟ<br />กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง<br />สหพันธ์สิ่งทอและเครื่องหนังแห่งประเทศไทย</div>bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-6081518563167054632009-05-07T09:52:00.000-07:002009-05-07T11:30:26.082-07:00แรงงานร่วมขบวนนักศึกษาชุมนุมหน้ารัฐสภา หนุนรัฐสวัสดิการ<p><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj3haLL6PPpMExYWOzEyTVDnS05ajBhluTk5N2Xqpia5aHSqy_yaI2h_RM5oHajzcryS9Vmw7jaY13s5v2G2g1zkAzpuhmxG1PvcT_MGFUR0CAj0SO1MGV1__eZpGgwAyoW7-kBwwIbSUz1/s1600-h/01052009631.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5333136830740584706" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj3haLL6PPpMExYWOzEyTVDnS05ajBhluTk5N2Xqpia5aHSqy_yaI2h_RM5oHajzcryS9Vmw7jaY13s5v2G2g1zkAzpuhmxG1PvcT_MGFUR0CAj0SO1MGV1__eZpGgwAyoW7-kBwwIbSUz1/s320/01052009631.jpg" border="0" /></a><br /><br /><br /><div align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj-Mz19s1IOAgOVg7yb_jLSEWZXAI26wXmg70NMTC5ZpMgyXaf1VlGvTPAsIz_-hx7SU5pATOn9Ku5zSrCkltxJxubHas2r7g-DGTKwdEbbZQqiR5m0Ym_R0wflE_xhp67AKugFq3HHZ87n/s1600-h/01052009626.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5333136824152771298" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj-Mz19s1IOAgOVg7yb_jLSEWZXAI26wXmg70NMTC5ZpMgyXaf1VlGvTPAsIz_-hx7SU5pATOn9Ku5zSrCkltxJxubHas2r7g-DGTKwdEbbZQqiR5m0Ym_R0wflE_xhp67AKugFq3HHZ87n/s320/01052009626.jpg" border="0" /></a><em> 1 พ.ค. 52 กรรมกรสากล ต้องสู้เพื่อ รัฐสวัสดิการ ยกเลิกเหมาค่าแรง สินค้าต้องราคาถูก</em></div><br /><br /><br /><p>กลุ่มสหภาพแรงงานย่างรังสิตและใกล้เคียง ร่วมกับสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทยสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) กลุ่มสังคมนิยมประชาธิปไตยธรรมศาสตร์ กลุ่มเวียงผาสัมมนาราม และกลุ่มประกายไฟ กว่า 200 คน ร่วมกันจัดกิจกรรมเนื่องใน “วันกรรมกรสากล” โดยเมื่อเวลา 10.00 น.มีการตั้งขบวนบนถนนสุโขทัย บริเวณหน้าสวนสัตว์เขาดิน จากนั้นได้เดินขบวนไปชุมนุมที่หน้ารัฐสภา<br /><br /></p><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiiSG3Z7MRYR9QkMWRveyT5iUdHuPXcCi23Qbt3D7ziCnAKYC6PjJkW3e_yFnQvBjxO39tiog1lXA_rRr0p4rJb4dzHuub0Y-uy5y89pXlslKoBjc4cBgRFPdPgXj6X9SUWAAIM5FDQcc10/s1600-h/01052009625.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5333136813416469138" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiiSG3Z7MRYR9QkMWRveyT5iUdHuPXcCi23Qbt3D7ziCnAKYC6PjJkW3e_yFnQvBjxO39tiog1lXA_rRr0p4rJb4dzHuub0Y-uy5y89pXlslKoBjc4cBgRFPdPgXj6X9SUWAAIM5FDQcc10/s320/01052009625.jpg" border="0" /></a><br /><p><div align="center"><em>ขับกล่อมโดยบทเพลงจาก สนนท.</em></div><br /><br /><p>ในการชุมนุมได้เชิญชวนให้ประชาชนและคนทำงานทั่วไป ร่วมรณรงค์ให้รัฐบาลดำเนินการใน 3 ข้อ คือ 1.ให้ประเทศไทยเป็นรัฐสวัสดิการ 2.ให้รัฐบาลรัฐบาลยกเลิกการจ้างงานเหมาค่าแรง และควบคุมดูแลไม่ให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนสิทธิแรงงานในทุกมิติ และ 3.รัฐบาลต้องควบคุมราคาสินค้าอุปโภค บริโภค เพื่อประชาชนอย่างเหมาะสม<br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgPHoUVD1bneIRMwitfHyJiMN4w2iv_ekBUq5qu8SdB6rcACG1GwaYGpH7xPDCsW3pIrxd3ID5to9u668N97H7oLZquKPm6jHgsqG0aFBauzV6vb4sTeRMsaAYeHAFj07nL5wl2B-QEHaP0/s1600-h/01052009636.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5333136840182469634" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgPHoUVD1bneIRMwitfHyJiMN4w2iv_ekBUq5qu8SdB6rcACG1GwaYGpH7xPDCsW3pIrxd3ID5to9u668N97H7oLZquKPm6jHgsqG0aFBauzV6vb4sTeRMsaAYeHAFj07nL5wl2B-QEHaP0/s320/01052009636.jpg" border="0" /></a> <div align="center"><em>ป้ายของ สนนท.และกลุ่มประกายไฟ<br /></em></div><br /><p><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhSSUzYfICPuDIDjXGt4qqhlTJ1_bnoKg7pFCD_XfE7FEwM3XBhJNl4OeEfhlkxntDnQWrYoAO6SR77Sz2-hdud3xCHVGymxt3DHCkS8j4wPxL08QcJNMDeNSljEH-Z2ZPeFcHHEZcvdVsW/s1600-h/01052009635.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5333136835333399970" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhSSUzYfICPuDIDjXGt4qqhlTJ1_bnoKg7pFCD_XfE7FEwM3XBhJNl4OeEfhlkxntDnQWrYoAO6SR77Sz2-hdud3xCHVGymxt3DHCkS8j4wPxL08QcJNMDeNSljEH-Z2ZPeFcHHEZcvdVsW/s320/01052009635.jpg" border="0" /><br /></p></a><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhSSUzYfICPuDIDjXGt4qqhlTJ1_bnoKg7pFCD_XfE7FEwM3XBhJNl4OeEfhlkxntDnQWrYoAO6SR77Sz2-hdud3xCHVGymxt3DHCkS8j4wPxL08QcJNMDeNSljEH-Z2ZPeFcHHEZcvdVsW/s1600-h/01052009635.jpg"></a><p><div align="center"><em>ละครสะท้อนชีวิตของพี่น้องแรงงาน</em></div><br /><br />ส่วนกิจกรรม มีการปราศรัยเกี่ยวกับข้อเสนอต่างๆ ของผู้เข้าร่วม มีการแสดงดนตรี การแสดงละครสะท้อนชีวิตของคนงาน และในตอนท้ายได้มีการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันว่า กลุ่มสหภาพแรงงานย่างรังสิตและใกล้เคียง ร่วมกับองค์กรเพื่อนมิตรทุกองค์กร ขอสัญญาร่วมกันว่าจะร่วมกิจกรรมรณรงค์ร่วมกันอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างพลังในการเรียกร้องต่อรัฐร่วมกัน และจะมีการมาพบกันอีกครั้งที่ตรงนี้<br /><br />ด้านกลุ่มประกายไฟมีแถลงการณ์เสนอรัฐสวัสดิการคือทางออกในวิกฤติ โดยแรงงานต้องเรียกร้องรัฐสวัสดิการ สังคมใหม่ที่สะท้อนความเสมอภาค และเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ทั้งนี้ รัฐสวัสดิการคือสังคมที่ให้หลักประกันในทุกด้าน ตั้งแต่เกิดจนตาย โดยจะนำสู่สังคมที่เป็นประชาธิปไตย เพิ่มอำนาจให้ประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ตัวอักษรตามรัฐธรรมนูญ โดยงบประมาณรัฐสวัสดิการต้องมาจากการเก็บภาษีที่ดิน ภาษีมรดก ภาษีเงินได้ในอัตราก้าวหน้า ดังนั้นรัฐสวัสดิการจึงไม่ใช่การร้องขอ หรือความใจดีของชนชั้นปกครอง แต่ต้องมาจากการต่อสู้ ซึ่งจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองของตนเองเพื่อชูรัฐสวัสดิการอย่างแท้จริง<br /><p></p><br /><br /><br /><br /><br /><div>แถลงการณ์ฉบับเต็ม<br /><br /></div><br /><br /><br /><br /><br /><div align="center">กลุ่มประกายไฟเสนอ รัฐสวัสดิการคือทางออก ในวิกฤติเศรษฐกิจ!!!</div><br /><br /><br /><br /><br /><div><br /><br />วันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปีจะเป็นวันที่ชนชั้นปกครองทั่วโลกอกสั่นขวัญแขวนและหวาดกลัวที่สุด เมื่อ ประชาชนที่ทำงานหนักที่สุด ถูกขูดรีดเอาเปรียบที่สุดของทุกสังคมหาญกล้าที่จะรวมตัว หาญกล้าที่จะตั้งคำถามและทวงถามถึงความเป็นธรรม ขณะที่มวลชนรวมตัวและเรียกร้องในนามของผู้ใช้แรงงาน รัฐบาลที่หวาดกลัวประชาชนของตัวเอง จะโฆษณาชวนเชื่อ พร้อมคำหลอกลวง เรียกร้องหาความสมานฉันท์และสามัคคีในชาติ แต่พวกเขาล้วนหลอกลวง....เพราะพวกเขาไม่เคยหยุดขูดรีดเพื่อหาทางสมานฉันท์กับเราแต่อย่างใด เว้นแต่ในหนังสือนิยาย ที่มีในแบบเรียนที่พวกเขาหลอกลวงลูกหลานของพวกเราเท่านั้น<br />ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจนี้ เราจะพบว่าเหล่านายทุน-ผู้ประกอบการ จะมีมาตรการและข้ออ้างมากมายในการรักษาผลประโยชน์ของพวกเขา พวกเขาจะอ้างถึง สำนึกองค์กร ให้เราเสียสละลาออกเพื่อคนอื่น โดยพวกเขาไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยอะไร ขณะที่พวกเขาเรียกร้องให้พวกเราเสียสละ แต่พวกเขายังคงนอนกลัดกลุ้มบนกองเงินกองทองที่พวกเขาขูดรีดพวกเรามาก่อนหน้านั้น และครุ่นคิดว่าทำอย่างไรจึงจะเขี่ยพวกเราทิ้งอย่างดูดีที่สุด<br />วิกฤติเศรษฐกิจเป็นเครื่องความพิสูจน์ความจริงใจของพวกเขา.....ว่าเมื่อต้องการลดค่าใช้จ่ายพวกเราจะเป็นพวกแรกที่พวกเขาจะสลัดทิ้งเสมอ พวกเรากลุ่มคนที่ทำงานหนักที่สุดในประเทศและถูกละเลยมาโดยตลอดต้องเรียกร้อง รัฐสวัสดิการ สังคมใหม่ซึ่งะท้อนความเสมอภาค และเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อันมีองค์ประกอบดังนี้<br /><br />1.รัฐสวัสดิการคือสังคม ที่ให้หลักประกันในทุกด้าน ตั้งแต่เกิดจนตาย นับแต่การตั้งครรภ์ การเรียนหนังสือที่ฟรีและมีคุณภาพ สวัสดิการด้านที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม งานที่มีความหมายต่อสังคม ค่าตอบแทนที่เหมาะสมต่อการดำรงชีพและมีเกียรติในสังคม<br />2.รัฐสวัสดิการจะนำสู่สังคม ที่เป็นประชาธิปไตย เป็นการเพิ่มอำนาจให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ตัวอักษรตาม รัฐธรรมนูญ<br />3.งบประมาณรัฐสวัสดิการต้องมาจากการเก็บ ภาษีที่ดิน ภาษีมรดก ภาษีเงินได้ในอัตราก้าวหน้า<br />4.ดังนั้นรัฐสวัสดิการจึงไม่ได้มาจากการร้องขอ...หรือความใจดีของชนชั้นปกครอง หากแต่ต้องมาจากการต่อสู้ ซึ่งเราจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองของเรา เพื่อชูประเด็นรัฐสวัสดิการอย่างแท้จริง<br /><br />ติดต่อเราที่ : <a href="mailto:prakaifire@windowslive.com">prakaifire@windowslive.com</a>, <a href="mailto:prakaifire@gmail.com">prakaifire@gmail.com</a>,<br />0895363551, 0892583641, 0846601664, <a href="http://blogazine.prachatai.com/user/iskra/">http://blogazine.prachatai.com/user/iskra/</a> </div>bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8040996340656870611.post-87555584703875613082009-03-09T23:55:00.000-07:002009-03-10T00:02:55.852-07:00แรงงาน-นศ. ดัน ‘รัฐสวัสดิการ’ หนุนเก็บภาษีอัตราก้าวหน้า<div align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj-UNJmdNfiNsJOTLCXZyWQzN2kvaGwX3V8GoX5CkZvMQ4z3o4_s9dlDQfqrGpNVSojqLRcgkn18PenMJJl-Q7SL-5sUSvi_USda5HSa1cSAbhHOwV-k_r4hUqsZ9AwK4chiM-XuhyphenhyphendK1S1/s1600-h/IMG_6132.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5311450389314890306" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 214px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj-UNJmdNfiNsJOTLCXZyWQzN2kvaGwX3V8GoX5CkZvMQ4z3o4_s9dlDQfqrGpNVSojqLRcgkn18PenMJJl-Q7SL-5sUSvi_USda5HSa1cSAbhHOwV-k_r4hUqsZ9AwK4chiM-XuhyphenhyphendK1S1/s320/IMG_6132.jpg" border="0" /></a><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEierQyTI_58O2u2NVMJzdxOWlcOVdDu0bqa216LC4Ha_zbVfZF12xc9Z14HMWkOs6a_9465mY3OrdH6RVKPiy6Ky708rtBsREcsFVqwbo_wF8vALmPq0DlDH7OL1Krz-YMX8erNrR415QBh/s1600-h/IMG_6146.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5311450387768001314" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 214px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEierQyTI_58O2u2NVMJzdxOWlcOVdDu0bqa216LC4Ha_zbVfZF12xc9Z14HMWkOs6a_9465mY3OrdH6RVKPiy6Ky708rtBsREcsFVqwbo_wF8vALmPq0DlDH7OL1Krz-YMX8erNrR415QBh/s320/IMG_6146.jpg" border="0" /></a><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh3gcPnitrx0E9tRHcFNW1B0TWdsD87pDnMQtVr7MCq6muEhbKOQiyLs0DL_zs312zLwxqPHTg1IevPtJFsaIo-DC1eF39TDg0oAZ2dLAjYs2APJVVLF1ch_2n1M7GdWD2ddAIwKeEe9WYQ/s1600-h/IMG_6150.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5311450382397537330" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 214px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh3gcPnitrx0E9tRHcFNW1B0TWdsD87pDnMQtVr7MCq6muEhbKOQiyLs0DL_zs312zLwxqPHTg1IevPtJFsaIo-DC1eF39TDg0oAZ2dLAjYs2APJVVLF1ch_2n1M7GdWD2ddAIwKeEe9WYQ/s320/IMG_6150.jpg" border="0" /></a><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhyIbckkegl6OgVx-F-6NLNmhSFt6rd2I0jrANzqMdCzkAR3FhQggP3VdQacXdYC2dmBh0ngGobMmtFn67xtSQhobnkNey1ylpUWiSvL488fcmIkVjdaGfIzntVY4ols7aP0jn4D6iF45uM/s1600-h/IMG_6390.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5311450375690698194" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 213px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhyIbckkegl6OgVx-F-6NLNmhSFt6rd2I0jrANzqMdCzkAR3FhQggP3VdQacXdYC2dmBh0ngGobMmtFn67xtSQhobnkNey1ylpUWiSvL488fcmIkVjdaGfIzntVY4ols7aP0jn4D6iF45uM/s320/IMG_6390.jpg" border="0" /></a><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj__tGVqZWTSHeIf4zXBYRqftfMH6jskxMI3evCCq-H8J-VyJymPkCltDZWuSunMy2w4B88q-rUSekGPHejXi-mwdKCRf4lAJhdZrMvZ_SoXs3ygj93onyJflV-rX5i9lBorznbcXU3MNk9/s1600-h/IMG_6385.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5311450380219383010" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 213px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj__tGVqZWTSHeIf4zXBYRqftfMH6jskxMI3evCCq-H8J-VyJymPkCltDZWuSunMy2w4B88q-rUSekGPHejXi-mwdKCRf4lAJhdZrMvZ_SoXs3ygj93onyJflV-rX5i9lBorznbcXU3MNk9/s320/IMG_6385.jpg" border="0" /></a><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEinjoasqHE5Vzvffck4TROLpxVD3Sa6WYaCE9L8wdUT-Mr3NMMVzsG93dC5hjVevpq4tv32KgSEFNEyyJfPVh0dkZ1Y1Nbdj6gZgxWGucu18OeWrLxBsGXXHnNmdcfs25HUogqCcR7h1dNX/s1600-h/IMG_6412.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5311450700591787378" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 213px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEinjoasqHE5Vzvffck4TROLpxVD3Sa6WYaCE9L8wdUT-Mr3NMMVzsG93dC5hjVevpq4tv32KgSEFNEyyJfPVh0dkZ1Y1Nbdj6gZgxWGucu18OeWrLxBsGXXHnNmdcfs25HUogqCcR7h1dNX/s320/IMG_6412.jpg" border="0" /></a><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgzc7u97IN8CucLXSo2iMzorJ5RbTEnYGT4wa3wlA8KA8QFpZCpc8WIm-n2z3iSbAZjsZeX3iYwsL3Jixm3yF7tDObv1ZC9ryJLDv3-fIXJpFDJ3Mt7f2xO9tk3J7OKsZGgwLpZHQ4wpYNC/s1600-h/IMG_6397.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5311450707302614466" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 214px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgzc7u97IN8CucLXSo2iMzorJ5RbTEnYGT4wa3wlA8KA8QFpZCpc8WIm-n2z3iSbAZjsZeX3iYwsL3Jixm3yF7tDObv1ZC9ryJLDv3-fIXJpFDJ3Mt7f2xO9tk3J7OKsZGgwLpZHQ4wpYNC/s320/IMG_6397.jpg" border="0" /></a><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjGlDuoPYT1FZQjUAydI9lMWs3whFD5T0c6PfyIw4En-7MQec4y2XFbhWMFpzHbEV9KPaHpWugh3W4PsXahvfFcujPEBzgBEsNzA0uHJuzooftMRYIGCAoiE7nwXBuOHpQUf4uGRmktD-mx/s1600-h/IMG_6449.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5311450697621570738" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 214px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjGlDuoPYT1FZQjUAydI9lMWs3whFD5T0c6PfyIw4En-7MQec4y2XFbhWMFpzHbEV9KPaHpWugh3W4PsXahvfFcujPEBzgBEsNzA0uHJuzooftMRYIGCAoiE7nwXBuOHpQUf4uGRmktD-mx/s320/IMG_6449.jpg" border="0" /></a><br /><em>ภาพโดยปกป้อง พงศาสนองกุล</em></div><br /><br /><br />(8 มี.ค.) เนื่องในวันสตรีสากล ซึ่งตรงกับ 8 มี.ค. ของทุกปี องค์การความร่วมมือแก้วิกฤตแรงงาน (ควร.) ประมาณ 250 คน ซึ่งประกอบด้วยองค์กรแรงงานและนักศึกษา อาทิ สภาองค์การลูกจ้างสภาศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทย, อุตสาหกรรมสิ่งทอตัดเย็บเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์หนังแห่งประเทศไทย, สหพันธ์แรงงานกระดาษและการพิมพ์แห่งประเทศไทย, สหพันธ์แรงงานอาหารและเครื่องดื่มแห่งประเทศไทย, สหพันธ์ แรงานชิ้นส่วนยานยนต์ฯ, สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.), สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ, กลุ่มกรรมกรปฏิรูปและกลุ่มประกายไฟ เป็นต้น ร่วมกันชุมนุมบริเวณหน้าทำเนียบฝั่งประตู 4 ตรงข้ามสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)<br /><br /><br /><br />ผู้ชุมนุมใช้แถบผ้าสีแดงมีข้อความ “หยุดทุนนิยม สร้างสังคมรัฐสวัสดิการ” คาดศีรษะเป็นสัญลักษณ์ โดยผลัดกันขึ้นปราศรัยบนรถบรรทุก นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมแสดงละครสะท้อนปัญหาแรงงานหญิงจาก สนนท. และกลุ่มประกายไฟ และทำพิธีรดน้ำศพหุ่นนายกฯ เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลไม่เคยแก้ปัญหาให้คนงาน เท่ากับเป็นรัฐบาลที่ไม่มีชีวิต โดยผู้ชุมนุมได้ช่วยกันนำหุ่นนายกฯ โยนเข้าไปในทำเนียบฯ ทางประตู 5 ก่อนจะยุติการชุมนุมด้วย<br /><br /><br /><br />“...เพื่อให้พวกเราซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ในสังคมมีความมั่นคงในชีวิต เศรษฐกิจและสังคม เพื่อความเป็นธรรม ความเสมอภาค เพื่อให้เกิดประชาธิปไตยของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อให้พวกเราได้ในสิ่งที่พวกเราถูกขูดรีดไปกลับคืนมา และเพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของพวกเรา ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงขอใช้โอกาสวันสตรีสากล วันแห่งความเสมอภาคและความเป็นธรรมนี้ประกาศว่า “พอกันที”” นายบรรจง บุญรัตน์ ประธานสภาองค์การลูกจ้างศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนอ่านคำประกาศวันสตรีสากล ซึ่งระบุว่า ในเบื้องต้นจะร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยเป็นรัฐสวัสดิการคือเป็นสังคมที่ให้หลักประกันในทุกด้านอย่างถ้วนหน้าและครบวงจร โดยใช้งบประมาณจากภาษีที่ดิน ภาษีมรดก และภาษีเงินได้ในอัตราก้าวหน้า รวมถึงยกเลิกภาษีทางอ้อม (VAT) ลดงบประมาณของรัฐที่ไม่จำเป็น เช่น งบประมาณทางการทหาร งบประมาณการโฆษณา และพิธีกรรรมของรัฐที่ไม่จำเป็นต่อชนชั้นล่าง เป็นต้น ซึ่งรัฐสวัสดิการนั้นจะนำไปสู่สังคมที่เป็นประชาธิปไตย เป็นการเพิ่มอำนาจให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ตัวอักษรตามรัฐธรรมนูญ นอกจากนั้นยังเสนอให้มีพรรคการเมืองที่เป็นของแรงงานเอง เพื่อเข้าไปมีส่วนกำหนดนโยบายรัฐโดยตรงและเพื่อให้การศึกษาแก่มวลชนด้วย<br /><br /><br /><br />นางสาวจิตรา คชเดช เจ้าหน้าที่สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า คนมักคิดว่าการเรียกร้องสิทธิผู้หญิงคือการเรียกร้องสิทธิที่เหนือกว่าผู้ชาย แต่ตนเองมองว่า ไม่ใช่การเหนือกว่า แต่เป็นเรื่องสิทธิของคนจนที่จะเข้าสู่การกำหนดนโยบาย การบริหารประเทศได้อย่างไร ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นผู้หญิง เป็นแค่ชนชั้นเราก็พอแล้ว เพราะถ้ามองแค่ว่าต้องเป็นผู้หญิง สุดท้ายคนที่เข้าสู่ตำแหน่งก็ไม่พ้นชนชั้นสูงอย่างคุณหญิงคุณนายทั้งหลาย<br /><br /><br /><br /><br />ที่มา : ประชาไท วันที่ : 9/3/2552bus4530219http://www.blogger.com/profile/05639114857317345894noreply@blogger.com0